“โอกาส ก็เหมือนอากาศที่อยู่รอบๆตัวเรา
ทุกครั้งที่ท่านหายใจเอาอากาศเข้าไป อย่าลืมหายใจเอาโอกาสเข้าไปด้วย”
นี่เป็นคำพูดให้กำลังใจสำหรับผู้คนที่ต่อสู้อยู่ในสังคม นานมาแล้วผู้เขียนเคยอ่านนิทานเกี่ยวเรื่อง “โอกาส” เขาบอกว่า โอกาสนั้นมาไวและไปไว
ถ้าไม่รีบคว้าไว้ เราก็จะพลาดโอกาสนั้น
โอกาสของคนเรา บางครั้งก็ดูเหมือนได้มาง่ายๆ
บางครั้งก็ได้มาอย่างลำบากยากเย็นแสนเข็ญ
ถ้าท่านเดินไปตามถนนแล้วพบคนแก่กำลังจะข้ามทางม้าลาย นั่นเป็นโอกาสง่ายๆ
สำหรับให้ท่านทำความดี
ถ้าเดินไปตามถนนแล้วเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ นั่นก็เป็นโอกาสให้ท่านทำดีก็ได้
ทำไม่ดีก็ได้ โอกาสจึงเป็นเรื่องกลางๆสำหรับทุกชีวิตบนโลกใบนี้
เกี่ยวกับเรื่องโอกาสนี้ เท่าที่เคยได้ยินได้ฟัง พอจะสรุปได้เป็น ๒
แนวความคิด คือ
๑. โอกาสของคนที่วาดหวังและรอคอย
๒. โอกาสของคนที่สร้างมันขึ้นมาเอง
สำหรับคนที่เชื่อเรื่องดวงชะตาชักพา
ก็จะถูกจัดเข้าในข้อที่ ๑
ส่วนท่านที่เชื่อเรื่องกรรมคือการกระทำของเราเอง ก็จะจัดเข้าในข้อ ๒ สำหรับผู้เขียนนั้น เชื่อในข้อ ๒ มากกว่า เคยอ่านเจอคำคมฝรั่งบทหนึ่งว่าไว้ว่า “ถ้าท่านอยากให้อะไรเกิดขึ้น
ท่านจงทำให้มันเกิดขึ้น”
ดังนั้น ถ้าเราจะพูดใหม่ว่า “ถ้าท่านอยากได้โอกาส
ก็จงสร้างโอกาสให้แก่ตัวท่านเอง”
นักเรียนที่จบมัธยมปลาย
สร้างให้โอกาสในการเรียนต่อให้ตนเองด้วยการสอบเอ็นทร๊านซ์
คนอยากได้งานทำ สร้างโอกาสให้ตนเอง
ด้วยการเดินทางเข้าไปสมัคร และรอสัมภาษณ์
คนอยากได้ในสิ่งที่ตนเองอยากได้
ก็สร้างโอกาสด้วยการชวนผู้คนประท้วงเอา
ฯลฯ
โอกาสที่เราสร้างขึ้นมาอาจไม่สำเร็จทุกอย่าง
แต่ก็ถือว่าเป็นหนทางที่เห็นผลชัดเจน อย่างน้อยก็ชัดเจนกว่าการอยากได้โอกาสแล้ว
นอนรออย่างเดียว อ้อนวอนเทพเจ้า แล้วไม่ได้ทำอะไรเลยเป็นไหนๆ
ลองนำความคิดของคุณหม่ำมาพิจารณาดูแล้วก็เห็นว่า
มีเหตุผลน่านำไปทดลองปฏิบัติตาม
คำแนะนำของคุณหม่ำ ไม่ได้สร้างความเสียหายให้คนทดลองดู แต่อาจจะเป็น “โอกาส”
ให้คนเราได้สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง, ในสิ่งที่ฝันไว้ได้
ก็ได้…. จริงไหม?