6 วิธีที่ทำให้รักเชื่อใจกัน
1. อย่าปิดบังกัน มีอะไรดีใจ เสียใจ ไม่สบายใจ หนักใจ ก็ควรบอกให้คนรักของคุณรับรู้ เธอจะได้เข้าใจคุณ และไม่คิดมาก
2. พูดคุยสร้างความเชื่อมั่นในกันและกัน ให้เธอมั่นใจว่าคุณรักเธอคนเดียว
3. หากิจกรรมทำร่วมกันเพื่อสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวกัน อย่าปล่อยให้ความห่างเหินเข้ามาทำร้ายความรักของคุณและคนที่คุณรัก
4. หากคนรักของคุณระแวง สิ่งที่ห้ามอย่างยิ่งก็คือ โกหก แม้คุณจะคิดว่าการโกหกจะทำให้คนรักสบายใจ ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าวันใดเธอรู้ว่าคุณ
โกหก หรือปิดบังเธอ เธอจะเหมาว่าทุกอย่างที่เธอคิดระแวงต้องเป็นจริง ทางที่ดีคุณต้องสร้างความมั่นใจให้เธอ เธอก็จะเข้าใจคุณในที่สุด
5. รักษาความเสมอต้นเสมอปลายไว้ อย่าเปลี่ยนแปลง เพราะผู้หญิงจะรู้สึกได้ทันทีว่าคุณไม่เหมือนเดิม
6. อย่าผิดสัญญา ถ้าคุณเคยสัญญาอะไรกับเธอไว้ คุณต้องไม่ลืมเป็นอันขาด เพราะเธอจะจำได้แม่นมาก แม้จะไม่พูดก็ตาม และเมื่อคุณลืมบ่อย ๆ
เธอก็จะคิดว่าเธอไม่มีความสำคัญสำหรับคุณเลย
Cr.by https://my.dek-d.com
วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560
หนึ่งในไม่กี่คน จากหนึ่งในร้อย หนึ่งจากในล้าน
วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ดูดวงความรัก ราศีมังกร เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560
วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ดูดวงความรัก ราศีกรกฏ เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2560
วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560
เพลง เวลาของเรา
เพลง เวลาของเรา
ศิลปิน ปนัดดา เรืองวุฒิ และ โอ๊ค สมิทธิ์
อัลบั้ม คู่รักเพลงละคร
คำร้อง/ทำนอง: ปัญญา ปคูณปัญญา
เรียบเรียง: เรืองกิจ ยงปิยะกุล
เพลงประกอบละคร คิวบิก
เธอรู้ไหมว่าในชีวิตฉันไม่เคยฝันอะไรยิ่งใหญ่
ไม่มากมาย แค่อยากมีคนรักข้างๆ กัน
ฉันไม่เคยยอมแพ้ แม้มีสิ่งไหนมากมายเท่าไร
ที่มากั้น ก็ยืนยันจะรักทั้งหัวใจ
ฉันเชื่อมั่นในคำว่ารัก
เพราะรู้ว่าใจเรานั้นมั่นคงกว่าใคร
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
แค่ได้พบแค่เพียงสบตาฉันก็สุขใจ เมื่อเราได้อยู่ใกล้ๆ กัน
อยากให้เป็นอย่างนั้นเรื่อยๆ ไป
รู้ไหมในใจนี้ฉันมีแต่เธอมานานเท่าไร
ทั้งหัวใจไม่มีใครในนั้นยกเว้นเธอ
ฉันเชื่อมั่นในคำว่ารัก
เพราะรู้ว่าใจเรานั้นมั่นคงกว่าใคร
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
จะนานสักเพียงไหน จะรอถึงวันนั้น
เชื่อในในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน
วันพรุ่งนี้คือวันของเรา
ศิลปิน ปนัดดา เรืองวุฒิ และ โอ๊ค สมิทธิ์
อัลบั้ม คู่รักเพลงละคร
คำร้อง/ทำนอง: ปัญญา ปคูณปัญญา
เรียบเรียง: เรืองกิจ ยงปิยะกุล
เพลงประกอบละคร คิวบิก
เธอรู้ไหมว่าในชีวิตฉันไม่เคยฝันอะไรยิ่งใหญ่
ไม่มากมาย แค่อยากมีคนรักข้างๆ กัน
ฉันไม่เคยยอมแพ้ แม้มีสิ่งไหนมากมายเท่าไร
ที่มากั้น ก็ยืนยันจะรักทั้งหัวใจ
ฉันเชื่อมั่นในคำว่ารัก
เพราะรู้ว่าใจเรานั้นมั่นคงกว่าใคร
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
แค่ได้พบแค่เพียงสบตาฉันก็สุขใจ เมื่อเราได้อยู่ใกล้ๆ กัน
อยากให้เป็นอย่างนั้นเรื่อยๆ ไป
รู้ไหมในใจนี้ฉันมีแต่เธอมานานเท่าไร
ทั้งหัวใจไม่มีใครในนั้นยกเว้นเธอ
ฉันเชื่อมั่นในคำว่ารัก
เพราะรู้ว่าใจเรานั้นมั่นคงกว่าใคร
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
อยากให้รู้ว่าฉันจะยืนอยู่เคียงข้างเธอไม่จากไปไหน
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวต้องเจออะไร จะผ่านไปด้วยกัน
ต่อให้มีอะไรเปลี่ยนไป แต่ใจของฉันเหมือนเดิมทุกทุกวัน
เชื่อในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน จนกว่าถึงเวลาของเรา
จะนานสักเพียงไหน จะรอถึงวันนั้น
เชื่อในในรักเราเฝ้ารอด้วยกัน
วันพรุ่งนี้คือวันของเรา
วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ฉลาดเกมส์โกง
เรื่องย่อ ฉลาดเกมส์โกง
"ฉลาดเกมส์โกง" เรื่องราวของเด็กฉลาด กับภารกิจโกงข้อสอบ เปลี่ยนกระดาษคำตอบให้เป็นเงินล้าน ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่ "ธุรกิจกลางสนามสอบ" ของ ลิน (ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) นักเรียนทุนเจ้าของเกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกปีการศึกษา ธุรกิจที่มีจุดเริ่มต้นจากการช่วยเพื่อนสนิทอย่าง เกรซ (อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ) เด็กกิจกรรมตัวยงแต่ผลการเรียนย่ำแย่ และ พัฒน์ (เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เด็กบ้านรวยที่คิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง ด้วยการแชร์คำตอบกลางห้องสอบ จนกลายเป็นวงการลอกขนาดใหญ่ ที่นักเรียนหลายคนในโรงเรียนยินดีจ่ายค่าตอบแทนแบบสูงลิบ แลกกับการได้รับคำตอบจากอัจฉริยะอย่างลิน
เงินในบัญชีของลินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากธุรกิจการโกงสอบในโรงเรียน จากหลักหมื่นเป็นหลักแสน จนวันหนึ่งเธอก็มีโอกาสที่จะอัพเงินในบัญชีให้แตะหลักล้าน เมื่อพัฒน์และเกรซยื่นข้อเสนอสุดท้าทายให้เธอ นั่นคือการโกงข้อสอบ STIC ซึ่งเป็นการสอบเพื่อใช้คะแนนยื่นเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก ที่นักเรียนทุกประเทศต้องสอบในเวลาเดียวกัน โอกาสในการลอกให้รอดเท่ากับศูนย์ แต่ลินก็ยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับเงินล้าน ด้วยการบินไปสอบในประเทศที่เวลาเร็วกว่าเมืองไทย เพื่อที่จะได้เห็นข้อสอบก่อน และส่งคำตอบกลับมาให้ลูกค้าในเมืองไทย ปัญหาเดียวก็คือเธอต้องการคนฉลาดอีกหนึ่งคนมาช่วยให้ภารกิจการโกงครั้งนี้สำเร็จ และคนๆ นั้นก็คือ แบงค์ (นน ชานน สันตินธรกุล) นักเรียนทุนคู่แข่งของเธอ ผู้เกลียดการโกงเป็นชีวิตจิตใจ ลินจะทำอย่างไรให้แบงค์ตกลงร่วมมือกับเธอ และเกมส์โกงข้ามโลกนี้จะจบลงอย่างไร
หนังเริ่มต้นนำเสนอการลอกข้อสอบในประเด็นเล็กๆก่อนแล้วค่อยขยายสเกลไปไกลจนมันถูกพัฒนาเป็นธุรกิจ ระหว่างทางการไต่ระดับความพีคของการโกงข้อสอบนั้น หนังก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงประเด็นอื่นๆที่ช่วยตอกหน้าระบบการศึกษาในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกวดวิชาที่นับวันมันยิ่งสะท้อนปัญหาการศึกษาไทยว่าหลายคนเลือกที่จะเรียน "เพื่อสอบ" มากกว่าเรียน "เพื่อรู้" จะว่าไปก็ระบบมันก็คัดคนเก่งจากคะแนนสอบซะเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ งานนี้ก็เลยไม่รู้ว่าจะโทษใคร?
อย่างไรก็ดี ฉลาดเกมส์โกง ไม่ได้มาตีแผ่เด็กขี้โกงหรือชี้นำเทคนิคการโกงข้อสอบ หรือ how to เปลี่ยนกระดาษคำตอบให้เป็นเงินล้านให้เด็กนักเรียน แต่เขาตั้งใจเน้นตีแผ่ระบบการศึกษาไทย ค่านิยมด้านการศึกษา และระบบทุนนิยมในสังคมไทย เช่น
- เกรดเฉลี่ยและคะแนนที่สูงเป็นใบเบิกทางให้ทุกอย่าง เสมือนเป็นสิ่งเดียวในจักรวาลที่ชี้วัดคุณค่าของเด็กได้
- พ่อของลินยอมส่งเสียลูกเรียนโรงเรียนแพง ๆ เพราะโรงเรียนนั้นมีทุนให้เด็กไปเรียนต่อเมืองนอกเยอะ (แต่เราก็งง ๆ นะ พ่อนางบอกว่าที่รร.นี้มีทุนเยอะ แต่ ผ.อ. กลับบอกให้ ลิน กับ แบงค์ แย่งทุนเรียนต่อที่สิงคโปร์กันเอง เพราะมีให้แค่ทุนเดียว)
- จะส่งลูกเรียนโรงเรียนดี ๆ แพง ๆ ไม่ได้ต้องจ่ายแต่ค่าเทอม แต่ต้องจ่ายค่าแปะเจี๊ยะหรือเงินปากถุงหลักหมื่นหลักแสนกันอีก ซึ่งค่าเหล่านี้มักมาในรูปแบบของ ‘ค่าบำรุงรักษาสถานศึกษา’
- ครูที่เพิกเฉยกับการทุจริตของนักเรียน
- ครูที่ยกย่องและให้อภิสิทธิ์เด็กเรียนดีเหนือกว่าเด็กคนอื่น เพราะเด็กเหล่านี้จะสร้างชื่อเสียงให้รร.
- ครูในรร.ที่สอนพิเศษวิชาตัวเองแล้วออกข้อสอบเหมือนที่ตัวเองสอนพิเศษเด๊ะ ประมาณว่า ใครจ่ายเงินเรียนพิเศษกับกู ก็โชคดีไป
นอกจากนั้น หนังยังพยายามสอดแทรกประเด็นเรื่อง “ทางเลือก” ว่า ถึงแม้ต้นทุนชีวิตอาจไม่เท่ากัน แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถเลือกได้หรือเปล่า ชีวิตเรามีทางเลือก ก. ข. ค. ง. จ. หรือเปล่า
ไม่รู้สิ รู้สึกยังไม่ชอบตอนจบของหนังเท่าไหร่ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้น่าจะฉีกไปไม่ใช่พูดเฉพาะในแง่ของเด็ก ฉลาด 2 คนอย่างเดียว เหมือนหนังเชพตัวเองอยู่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)