วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ActArt - ก็ยังเป็นเธอ [Official Lyric Video]

โครงการรัฐบาลปี 2561 "สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ"

เปิดเงื่อนไขสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สานฝันคนถือบัตรคนจนกู้ซื้อบ้าน

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สานฝันคนอยากมีบ้าน เช็กรายละเอียดเลย ใครกู้ได้-กู้ไม่ได้ คิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง   

          มีข่าวดีกันไม่หยุดเลยกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน หลังจากล่าสุดรัฐบาลได้มอบของขวัญผ่าน "โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ" ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและบุคลากรภาครัฐ ได้มีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งก็เปิดให้ยื่นคำขอกันแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561 ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ดังนั้น มาลองเช็กรายละเอียดของโครงการกันแบบชัด ๆ กันดีกว่า ว่ามีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขอะไรบ้าง 

สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ใครกู้ได้บ้าง ?

          ผู้ที่มีสิทธิขอเงินกู้ในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประกอบด้วย

          1. ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  

          2. ประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ทั้งประกอบอาชีพอิสระและประจำ

          3. ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ

          4. ผู้ที่มีภูมิลำเนาหรือมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี (เฉพาะโครงการในพื้นที่ชายแดนใต้)

          โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์เตรียมวงเงิน 60,000 ล้านบาทไว้สำหรับโครงการนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
          - วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 
          - วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน
          - วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับบุคลากรภาครัฐ 


สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กู้เงินไปทำอะไรได้บ้าง ?

          โครงการนี้ให้สิทธิผู้กู้สามารถนำเงินไปใช้เพื่อที่อยู่อาศัย โดยครอบคลุมทั้งการซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด, ปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออาคารหรือห้องชุดบนที่ดินของรัฐ

          นอกจากนี้ สำหรับบุคลากรภาครัฐยังสามารถนำเงินไปใช้สำหรับไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น, ต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร, ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย รวมถึงซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
เงื่อนไข หลักเกณฑ์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

          การปล่อยสินเชื่อบ้าน ธอส. จะแบ่งออกเป็น 3 โครงการด้วยกัน คือ 1. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 

          เป็นโครงการที่ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐ และประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่ประกอบอาชีพประจำและอิสระ 

          วงเงิน : 
          - สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1 ล้านบาท  
          - สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/เดือน วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท  

          ระยะเวลาผ่อน : ระยะเวลาการกู้ไม่น้อยกว่า 7 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี

   ค่าธรรมเนียม : ผู้กู้จะได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียม ดังนี้
          - ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ 
          - ค่าประเมินราคาหลักประกัน
          - ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม 
          - ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 

          ตรวจสอบเอกสารที่ใช้ยื่นประกอบการสมัครได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 

รัฐบาลชุดนี้มีความเข้มแข็งในการออก Promotion มาเพื่อเป็นการจูงใจประชาชนค่ะ😊

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สถานที่ท่องเที่ยวทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย ศิวพร ไตรภพ

#สถานที่ท่องเที่ยวทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
1 อำเภอพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์ / เมืองมรดกโลก
2 อำเภอบางไทร ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
3 อำเภอวังน้อย ตลาดน้ำทุ่งบัวชม
4 อำเภอบางประอิน พระราชวังบางปะอิน
5 อำเภออุทัย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
6 อำเภอภาชี พลวงพ่อรวย วัดตะโก
7 อำเภอนครหลวง ปราสาทนครหลวง
8 อำเภอท่าเรือ หลวงพ่อโต วัดสะตือ
9 อำเภอบางปะหัน วัดมะเดื่อ ตามรอยพระเจ้าตากสิน
10 อำเภอบางบาล วัดพระขาว
11 อำเภอเสนา วัดบางนมโค
12 อำเภอบางซ้าย วัดมฤคทายวัน
13 อำเภอลาดบัวหลวง ไร่สตอเบอรี่เอพี @อยธยา
14 อำเภอผักไห่ ตลาดน้ำลาดชะโด
15 อำเภอมหาราช อุทยานมหาราชหลวงปู่ทวด อยุธยา
16 อำเภอบ้านแพรก วัดท้าวอู่ทอง ผู้สร้างเมืองกรุงเก่า


รองนายกรัฐมนตรีฯ ผลักดันท่องเที่ยวหวังสร้างการเติบโตภายในประเทศ เล็งตั้ง 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว มอบหมาย ททท. คิดแพ็กเกจกระตุ้นคนไทยเดินทางมากขึ้น ด้าน “กอบกาญจน์” เชื่อรายได้เพิ่ม ปรับเป้าปี 2559 เป็น 2.41 ล้านล้านบาท จากเดิม 2.3 ล้านล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประชุมร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เผยว่า ในปี 2559 นี้ คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ดีก็ตาม แต่ท่ามกลางปัจจัยลบกลับเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐจะเข้ามาสนับสนุนหรือลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยมีการเติบโตภายในประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หาแนวทางดำเนินการเพิ่มมูลค่าแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่
ในปีนี้ท่องเที่ยวต้องมีบทบาทเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ เพื่อชดเชยการส่งออก จึงต้องมีโครงการระยะสั้นในลักษณะจูงใจให้คนท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นซึ่งแต่เดิมการท่องเที่ยวมีหลายสถานที่น่าสนใจและถูกจัดสรรให้เป็นกลุ่มอยู่แล้ว จึงต้องมีการสร้างแรงจูงใจตามมา ดังนั้น ททท.จึงต้องไปคิดแพ็กเกจท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกเดือน” นายสมคิดกล่าว
โดยอาจมีการจัดตั้ง 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว หรืออาจเป็น 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยว เพราะในช่วงที่ผ่านมามีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งแล้ว แต่ยังขาดการลงทุนและสร้างให้เกิดเรื่องราวที่น่าสนใจ มองว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศจะช่วยสร้างรายได้ให้กับสินค้าเกษตรและการจ้างงาน หากสามารถทำได้เร็วและดีพองบประมาณจัดสรรอย่างถูกต้อง เม็ดเงินจะช่วยให้เศรษฐกิจดีตามไปด้วย
ทั้งนี้ ในอนาคตยังต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ โรงแรม ในเมื่อมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว หากเอกชนรายได้ต้องการสนับสนุนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ ก็จะมีมาตรการที่เหมาะสมในการสนับสนุนให้เป็นพิเศษ หรือจูงใจนักลงทุนให้มากที่สุด
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เผยว่า จากเป้ารายได้ของการท่องเที่ยวในปี 2559 ที่คาดการณ์ว่าจะได้ราว 2.3 ล้านล้านบาทนั้น ขณะนี้กำลังมีแผนหลายด้านเพื่อผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศเกิดขึ้นมากกว่าเดิม ควบคู่ไปกับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม จึงได้มีการปรับเป้าใหม่เป็น 2.41 ล้านล้านบาท
ส่วนแนวทางที่เห็นว่าจะผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยมีรายได้พร้อมกับมีคุณภาพได้นั้น ต้องเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสินค้าใหม่จากการท่องเที่ยว ก็จะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้เกิดรายได้
อีกทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเตรียมหารือร่วมกับกรมสรรพากร และกระทรวงการคลัง พิจารณาเปิดให้คนไทย ที่ใช้บริการเส้นทางการบินในประเทศซึ่งจะสามารถช็อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ได้ด้วย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้เพิ่มขึ้น หลังจากมีผลตอบรับที่ดีในโครงการช็อปช่วยชาติ

ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ทททนายยุทธศักดิ์ สุภสร เผยว่า เพื่อเป็นการสร้างแจงจูงใจในการให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น จึงมีแผนจะจัดแคมเปญ “เที่ยวช่วยไทย” ซึ่งจะมีการกำหนดแพ็กเกจที่มีความน่าสนใจออกมารวมถึงประชาชนยังสามารถลุ้นชิงโชคทุกเดือนจำนวน 1 ล้านบาท อาจให้ภาคเอกชนร่วมมือในการสนับสนุนด้านสินค้าของการจัดกิจกรรม หรือลดราคาห้องพักตามวันเกิดและมอบโปรโมชั่นในการเข้าพัก 2 คืน มอบส่วนลด 50% ในคืนที่ 3 และการทำสินค้าปลอดภาษี เพื่อให้เกิดการจับจ่ายภายในประเทศ.
รองนายกฯสมคิด จัด 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว
http://thaitribune.org ,First posted: 12 มกราคม 2559 | 18:50

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

แม้ความจริงทรมาน ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเธอ







มีสองอย่างที่มันเอากลับคืนมาไม่ได้ เวลา , ความรู้สึก



เราอยากเป็นความทรางจำที่ดีของใครหลายๆ คนนะ



#ฉันอาจเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของเธอ

#แต่เธอคือปาฏิหาริย์ในชีวิตฉัน