วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เคยคิดกันบ้างมั้ย

เคยคิดกันบ้างมั้ยว่า..


.. กับการที่จะเลือก "รัก" ใครสักคนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
แม้รู้ดี ว่า ไม่มีคำว่า "อนาคต" ร่วมกัน.. มองไม่เห็นปลายทางนั้นแม้แต่น้อยนิด..
การ ได้รักใครสักคน.. มันทำให้เรามีกำลังใจอยู่บนโลกนี้ต่อไป..
การได้ คอยดูแลเค้าบ้าง ในบางครั้งที่ได้พบเจอ.. มันก็มีความสุขดีเหมือนกัน
การ ได้มองเห็นกันและกันในสายตา แค่ช่วงเวลานึง.. ก็ทำให้เรามีความสุขดีไม่ใช่เหรอ
การได้พูดคุยเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอแล้ว สำหรับเรา..
ถ้าเราคิดว่าเราต้อง การเพียงแค่นี้.. เราก็น่าจะพอใจกับสิ่งที่เห็น ที่เป็นอยู่..
..
เพียง แค่ให้เค้าได้รู้ว่า เรายังอยู่ตรงนี้..
เมื่อเค้าหันกลับมา..
ก็ยังมีเรานั่งรออยู่เงียบ ๆ
อยู่ในมุมของเรา…อย่างไม่ร้องขอใด ๆ ทั้งสิ้น.


ขอเพียงแค่.. เค้ารับรู้ ว่ายังมีเราอยู่ตรงนี้ ก็พอ…
เหมือนเส้นขนาน 2 เส้น.. ที่ไม่มีวันบรรจบกันได้..


.. ทำได้แค่ ตีคู่เส้นขนานกันไปอย่างนี้
แต่ยังมองเห็นกันและกันได้เสมอ..
คิด อย่างนี้ มันทำให้เจ็บปวดน้อยลง.. ดีมั้ยนะ..
เพราะจะตัดใจให้เลิก รัก มันทำให้ทุรนทุรายมากขึ้น..

เราเลือกอย่างนี้คงจะดีสำหรับเรา..
หรือเปล่าก็ไม่รู้..
เพราะเราอ่อนล้าเกินไป..
ที่จะออกไปพบกับสิ่งใหม่ ๆ คนใหม่..
และเริ่มต้นกันใหม่..

เด็กหญิงความรัก” กับ “นายรองเท้า”

เด็กหญิงความรัก” กับ “นายรองเท้า”

  ท่ามกลางเมืองที่แสนจะกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อ
  “เด็กหญิงความรัก”
  ทุกวันๆเด็กหญิงความรักจะเดินทางไปในที่ต่างๆตามลำพัง ด้วยสองเท้าที่เปลือยเปล่า
  โดยไม่สนใจว่าพื้นที่เธอเหยียบย่ำจะสกปรก หรือสะอาด จะร้อนระอุ หรือชื้นแฉะ
  หรืออาจจะเต็มไปด้วยกิ่งไม้ หรือเศษแก้วต่างๆที่อาจจะทิ่มแทงเท้าอันบอบบางของเธอ

  เด็กหญิงความรักยังคงมีความสุขกับการเดินทางด้วยเท้าเปล่า
  เธอยังคงเดิน เดิน และเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างเดียวดาย……….

  แต่แล้ววันหนึ่งระหว่างการเดินทางตามปกติของเด็กหญิงความรัก
  เธอเริ่มรู้สึกเจ็บปวดบริเวณเท้าทั้งสองข้างจนไม่อยากเดินทางต่อไป
  ความรู้สึกเหงาและว้าเหว่ก็เข้ามาหาหาเธอในทันที

  ทันใดนั้นเองเด็กหญิงความรักได้พบกับ “นายรองเท้า”
  ซึ่งเป็นเพียงรองเท้าเก่าๆคู่หนึ่งที่ไม่ได้สะดุดตาอะไร

  นายรองเท้าทักทายเด็กหญิงความรักอย่างเป็นมิตร
  “เท้าเธอคงจะเจ็บมาก ถ้าเธอไม่รังเกียจ ให้ฉันเดินทางไปพร้อมๆกับเธอได้มั้ย
  ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง”

  เด็กหญิงความรักได้ยินเพียงแค่นั้น ความรู้สึกอ้างว้าง เดียวดายที่เคยมีก็มลายหายไปในทันที
  เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไปในทุกๆที่พร้อมๆกับ “นายรองเท้า”

  แต่ต่อมาไม่นานเด็กหญิงความรักก็ได้พบกับรองเท้าคู่ใหม่โดยบังเอิญ
  รองเท้าคู่นี้แตกต่างจากนายรองเท้ามากมายนัก
  เพราะเขาทั้งใหม่ ทั้งสะอาด และสะดุดตาทุกคนที่พบเห็นด้วยสีสันและดีไซน์ที่นำสมัย
  อีกทั้งยังเป็นรองเท้าแบรนด์เนมที่มีราคาแพงอีกด้วย

  เด็กหญิงความรักจึงตัดสินใจที่จะทิ้ง “นายรองเท้า”
  แม้ว่าเขาจะสวมใส่สบาย และพร้อมที่จะก้าวเดินไปกับเธอในทุกๆที่ก็ตาม

  เด็กหญิงความรักได้ตัดสินใจสวมใส่รองเท้าคู่ใหม่ (ที่สุดแสนจะ perfect)
  ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่พอดีกับเท้าของเธอ
  เพียงเพื่อต้องการให้ตนเองดูดีขึ้นในสายตาของผู้อื่น
  เด็กหญิงความรักถึงกับยอมให้รองท้ากัด จนเท้าของเธอเจ็บปวดทรมานมาก
  แต่เธอก็ยังอดทน และพยายามที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป ทั้งที่ในใจเธอนั้นไม่มีความสุขเลย

  เพียงไม่กี่วัน เด็กหญิงความรักก็รู้ดีว่า...
  เธอกับรองเท้าคู่ใหม่นั้นเข้ากันไม่ได้เลย
  เพราะหลายครั้งที่เขาทำให้เธอเสียใจ
  เขาไม่พร้อมที่จะเดินทางไปกับเธอในทุกๆที่
  เขากลัวการลำบาก เขากลัวถูกแปดเปื้อนจากดิน จากโคลนที่สกปรก

  เด็กหญิงความรักกลับมานั่งทบทวนดูเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา
  เธอจึงพบว่าระหว่างเธอกับรองเท้าคู่ใหม่นั้นยังขาด “ความเข้าใจ”
  ทำให้ตลอดระยะเวลาการเดินทางทั้งคู่ต้องพบกับปัญหาและอุปสรรคอยู่เสมอ

  ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาใครๆต่างพากันอิจฉาเด็กหญิงความรักที่เธอได้ครอบครองรองเท้าคู่ใหม่ผู้เพียบพร้อม
  แต่เธอก็เลือกที่จะถอดรองเท้าคู่นั้นออก และกลับมาเดินเท้าเปล่าดังเดิม
  มันอาจจะเจ็บเท้าบ้างในบางครั้ง แต่เธอก็สบายใจ
  เพราะเธอสามารถเดินทางไปได้ในทุกๆที่ที่เธอต้องการ

  เด็กหญิงความรักเดินทางตามลำพังมาเป็นเวลานานพอสมควร
  เธอเริ่มรู้สึกกลัว รู้สึกเหงา และโดดเดี่ยว
  เธออยากจะมีเพื่อนสักคนที่เข้าใจเธอ และพร้อมที่จะเดินทางไปกับเธอในทุกๆที่

  ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยตะโกนถามเธอว่า......
  “อยากจะมีเพื่อนร่วมทางสักคนมั้ยครับ”
  ใช่แล้ว! มันเป็นเสียงของเขา............. “นายรองเท้า”

  เด็กหญิงความรักดีใจมากจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
  เพราะเธอคิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสเจอเขาอีกเลย หลังจากที่เธอตัดสินใจทิ้งเขาไป
  นายรองเท้ายังคงพูดประโยคเดิมๆกับเธออีกครั้งว่า …..
  “ถ้าเธอไม่รังเกียจ ให้ฉันเดินทางไปพร้อมๆกับเธอได้มั้ย
  ฉันสัญญาว่าจะปกป้องเธอเอง”

  เด็กหญิงความรักยิ้มและตอบกลับไปว่า “ขอบคุณนะ...ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป”
  “เธอไม่จำเป็นต้องสัญญาหรอก เพราะถ้าเมื่อใดที่เธอรู้สึกเบื่อ และอยากเป็นอิสระจากฉัน
  ฉันก็พร้อมที่จะให้เธอไป” นายรองเท้าตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน
  เด็กหญิงความรักรู้ในทันทีว่านี่แหละ คือ “ความเข้าใจ” ที่เธอรอคอยมานานแสนนาน
  แต่วันนี้เธอเจอแล้ว และเธอจะเก็บดูแลรักษามันไว้อย่างดี


  ถึงแม้ว่านายรองเท้าจะเป็นเพียงแค่รองเท้าธรรมดาๆคู่หนึ่ง ไม่ได้น่าชื่นชมในสายตาของคนอื่นๆ
  แต่สำหรับเด็กหญิงความรักแล้ว เขาสำคัญต่อเธอมาก
  เขาเข้าใจและห่วงใยเธอ ส่วนเธอก็รู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา...แค่นี้มันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับ
  เธอ
  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กหญิงความรักและนายรองเท้าก็อยู่เคียงข้างกันตลอดไป
  ในบางครั้งเราอาจจะเห็นเด็กหญิงความรักไม่ได้ใส่รองเท้า...แต่อย่าเพิ่งตกใจ!!!
  ลองมองดูในมือเธอสิ! นายรองเท้าอาจจะอยู่ในมือของเธอก็ได้
  เขาอาจจะต้องการให้เท้าของเธอได้เป็นอิสระจากการผูกมัดบ้าง
  หรือเธออาจจะซักนายรองเท้า แล้วแห้งไม่ทันก็ได้.....อย่าคิดมาก!!!

  ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.....
  1. คนที่ดีอาจไม่ใช่ และคนที่ใช่อาจไม่ดี
  2. คนที่ใช่สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ใช่สำหรับเรา ส่วนคนที่ใช่สำหรับเราอาจจะไม่ใช่สำหรับคนอื่น
  3. รักแท้มักจะมาถูกที่ ถูกเวลาเสมอ
  4. ความรักไม่ใช่การผูกมัด เพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
  5. สิ่งที่ความรักต้องการมากที่สุด คือ ความเข้าใจ

  ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ฝากจดหมายถึงคนบนฟ้า


ฝากจดหมายถึงคนบนฟ้า

เมื่อก่อนหนูไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่พูดและพยายามจะโต้งเถียง
ประโยคที่ว่า
ทำไมลูกแม่ไม่เป็นเหมือนลูกบ้านอื่นๆ เค้าบ้าง

กลับโต้เถียงกลับว่า
ลูกบ้านอื่นเค้าดีกว่าลูกเราอย่างไง แม่
บ้านเรา ถึงแม้เราจะไม่มีพ่อ แต่ลูกแม่ทุกคนก็ได้ดีกว่าลูกบ้านอื่นๆ ทั้งๆ ที่โดนดูถูกมาตลอดชีวิต
แม่เหมือนกลืน กลั้น น้ำตาไว้

นัยยะ ของความหมาย วันนั้น ไม่เข้าใจ
วันนี้มันเข้าใจ

แม่แค่อยากเป็นเหมือนบ้านอื่นๆ ที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า เย็นมากินข้าวด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน เหมือนลูกบ้านอื่นทั่วไป
ไม่ใช่อยากได้ลูกเก่ง ที่วันเสาร์ อาทิตย์ หรือ แทบไม่มีเวลาว่างกลับมากินข้าวกับแม่เลย
แม่คงเหงามาก
ลูกพอเรียนจบ ต่างคนก็ต่างทำงาน ตามหาความฝันของตัวเอง
ยิ่งเราแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ ทำงานวันหนึ่งหลายที แทบไม่มีเวลาให้เค้าเลย

ขอโทษนะแม่
ขอโทษที่ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีพอ
ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลแม่อย่างที่แม่อยากให้ดูแล
ขอโทษที่ไม่ได้กลับไปนอนบ้านเลย
ขอโทษที่ออกมาอยู่ข้างนอกตามลำพังเพียงคิดว่า มันยังอีกไกล รอ ให้มีทุกอย่างแล้วจะกลับไปอยู่กับบ้าน
พอมีทุกอย่างก็ไม่เคยกลับ...กับมีความคิดที่อยากได้เรื่อยๆ

#คนเรามีบ้านหลายหลังก็อยู่ได้ทีละหลัง
#มีรถหลายคันก็ใช้ได้ทีละคัน
#ที่สำคัญคนเราเก่งแค่ไหนก็กินข้าวได้ทีละคำ

วันนี้สำนึกแล้ว สำนึกในคำว่าพอเพียง พออยู่ ไม่ต้องดิ้นร้น ไขว่ขว้าอะไรมากนักหรอก
#แต่กว่าจะรู้สึก แม่ก็ต้องใช้ทั้งชีวิตและลมหายใจของแม่เพื่อสอนคำนี้
#อย่าลืมกันนะแม่ชาติหน้ามีจริงหนูจะชดใช้ให้แม่ทั้งหมด

#เพลงแดนซ์ ลอยลิลอย ( มาแรงใน TikTok ) 2018





ปกติก็ชอบพี่อิลเค้าอยู่แล้ว
นักร้องแร็ปและนักแต่งเพลงสัญชาติไทย ซึ่งไม่มีสังกัดรู้จักกันดีในแวดวงเพลงใต้ดิน
ตามตั้งแต่แข่ง Battle จนได้แชมป์ SEA Audio Battle Vol.1 ปี2008
ชอบหลายเพลง
โดยเฉพาะ Best Thing
ฉันนั้นอาจเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของเธอ
Chun nun aht bpen reuang tee yae tee soot kaung tur
I might be your worst problem
แต่เธอคือปาฎิหาริย์ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
Dtae tur keu bpahdtihahn tee chun mai koey pob jur
But you’re a miracle I never found
และเพลง ลอยลิลอย ก็มาจากเพลง Get Loy ของพี่อิลเช่นกัน


# Best Thing
Artist: Illslick
Album: [Single]
Year: 2013
You Already Know What It Is Mayne (X2)

อยากจะบอกว่าฉันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย
Yahk ja bauk wah chun bpen faen tee mai dai reuang loey
I want to tell you that I’m a useless boyfriend
ใส่ใจดูแลเธอสักนิดก็ไม่เคย …. ไม่เคยเลย
Sai jai doo lae tur suk nit gor mai koey mai koey loey
I never paid attention to you at all, never
แต่เธอคือเรื่องที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้น­กับฉัน
Dtae tur keu reaung tee dee tee soot tee koey gert keun gup chun
But you’re the best thing that ever happened to me

ฉันรู้ว่าเธอเหมาะสมคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่­า
Chun roo wah tur mor som koo kuan gup sing tee dee gwah
I know you’re better suited for better things
วันที่สับสนรู้ไว้ว่าเธอนั้นมีค่า
Wun tee sup son roo wai wah tur nun mee kah
When you’re feeling mixed up, know that you have value
โฉมงามที่ใครเค้าตามใฝ่หา
Chohm ngahm tee krai kao dtahm fai hah
The beauty that everyone searches for
อยู่ที่ใดใครๆก็ตามไขว่คว้า
Yoo tee dai krai krai gor dtahm kwai kwah
Is wherever anyone can grab it

และผมไม่สนใจ Baby I Don’t Give A F*ck What They Say
Lae pom mai son jai baby I don’t give a f*ck what they say
And I don’t care, baby, I don’t give a f*ck what they say
คุณรู้ว่าผม Smoke Weed ….
Koon roo wah pom smoke weed
You know I smoke weed
แต่ผม Smoke Weed อยู่ใน Studio Get High With Ajay
Dtae pom smoke weed yoo nai studio get high with ajay
But I smoke weed in the studio, getting high with Ajay
Yeah .. คุณรู้ดีผม Get High
Yeah koon roo dee pom get high
Yeah, you know full well I get high
I Got Promethazine With Codeine Now Let’s Ride
I Got Promethazine With Codeine Now Let’s Ride

(*) อยากจะบอกว่าฉันเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย
Yahk ja bauk wah chun bpen faen tee mai dai reuang loey
I want to tell you that I’m a useless boyfriend
ใส่ใจดูแลเธอสักนิดก็ไม่เคย …. ไม่เคยเลย
Sai jai doo lae tur suk nit gor mai koey mai koey loey
I never paid attention to you at all, never
วันๆก็เอาแต่เมาอยู่อย่างนั้น
Wun wun gor ao dtae mao yoo yahng nun
Day by day I only get drunk
ฉันนั้นอาจเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของเธอ
Chun nun aht bpen reuang tee yae tee soot kaung tur
I might be your worst problem
แต่เธอคือปาฎิหาริย์ที่ฉันไม่เคยพบเจอ
Dtae tur keu bpahdtihahn tee chun mai koey pob jur
But you’re a miracle I never found
ฉันรักเธอ …. โปรดอยู่ดูแลคนเมาคนนี้ตลอดไปจะได้ไหม
Chun ruk tur bproht yoo doo lae kon mao kon nee dtalaut bpai ja dai mai
I love you…Please look after this drunkard forever

ไม่รู้ฉันเคยบอกมั้ยความนัยที่คิดจะเอื้อน­เอ่ย
Mai roo chun koey bauk mai kwahm nai tee kit ja euam oey
I don’t know if I ever told you the implications that you speak
ไม่มีเบื่อเลยรักเพียงแค่เธอนะทรามเชย
Mai mee beua loey ruk piang kae tur na sahm choey
I’m never bored, I only love you, baby
มั่นคงโอ้ดวงใจข้าเอ๋ย
Mun kong oh duang jai kah oey
Oh, my heart is stable
มองหญิงใดฉันก็ยังไม่กล้าเลย
Maung ying dai chun gor yung mai glah loey
I don’t dare look at other women

วันนี้ผมเมาไม่มากมาย You Know I’m On My Grind เมาแค่พอดี
Wun nee pom mao mai mahk mai you know I’m on my grind mao kae por dee
Today I’m not very drunk, you know I’m on my grind, I’m just drunk enough
Yeah I’m On That Molly , คุณรู้ผมพอมี …
Yeah I’m on that molly koon roo pom por mee
Yeah, I’m on that Molly, you know I’ve got enough
และทุกครั้งที่ขึ้นเสียงผมก็แค่อยากบอกคุณ I’m Sorry , I’m Sorry
Lae took krung tee keun siang pomg gor kae yahk bauk koon I’m sorry I’m sorry
And every time I raise my voice, I just want to tell you that I’m sorry, I’m sorry
แต่ได้โปรดอย่าจากไปจากผมจะได้ไหมผมขอที , ผมขอที
Dtae dai bproht yah jahk bpai jahk pom ja dai mai pom kor tee pom kor tee
But please don’t leave me, I’m begging you, I’m begging you

(*)

ไม่ว่าจะเกิดชาติไหน … ขอแค่เพียงชิดไกล้
Mai wah ja gert chaht nai kor kae piang chit glai
No matter what life I’m born into, I just ask to be near you
แม้จะนานเท่าไร … ดวงหทัยฉันไม่คลายรักเธอคนดี
Mae ja nahn tao rai duang tai chun mai klai ruk tur kon dee
No matter how long it’s been, my heart won’t change from loving you, baby

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ActArt - ก็ยังเป็นเธอ [Official Lyric Video]

โครงการรัฐบาลปี 2561 "สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ"

เปิดเงื่อนไขสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ สานฝันคนถือบัตรคนจนกู้ซื้อบ้าน

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สานฝันคนอยากมีบ้าน เช็กรายละเอียดเลย ใครกู้ได้-กู้ไม่ได้ คิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ มีเงื่อนไขอะไรบ้าง   

          มีข่าวดีกันไม่หยุดเลยกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน หลังจากล่าสุดรัฐบาลได้มอบของขวัญผ่าน "โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ" ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและบุคลากรภาครัฐ ได้มีบ้านในฝันเป็นของตัวเอง ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งก็เปิดให้ยื่นคำขอกันแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2561 ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ดังนั้น มาลองเช็กรายละเอียดของโครงการกันแบบชัด ๆ กันดีกว่า ว่ามีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขอะไรบ้าง 

สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ใครกู้ได้บ้าง ?

          ผู้ที่มีสิทธิขอเงินกู้ในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ประกอบด้วย

          1. ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  

          2. ประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ทั้งประกอบอาชีพอิสระและประจำ

          3. ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของรัฐ

          4. ผู้ที่มีภูมิลำเนาหรือมีความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส และปัตตานี (เฉพาะโครงการในพื้นที่ชายแดนใต้)

          โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์เตรียมวงเงิน 60,000 ล้านบาทไว้สำหรับโครงการนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ
          - วงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 
          - วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน
          - วงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับบุคลากรภาครัฐ 


สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กู้เงินไปทำอะไรได้บ้าง ?

          โครงการนี้ให้สิทธิผู้กู้สามารถนำเงินไปใช้เพื่อที่อยู่อาศัย โดยครอบคลุมทั้งการซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด, ปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออาคารหรือห้องชุดบนที่ดินของรัฐ

          นอกจากนี้ สำหรับบุคลากรภาครัฐยังสามารถนำเงินไปใช้สำหรับไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น, ต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร, ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย รวมถึงซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
เงื่อนไข หลักเกณฑ์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

          การปล่อยสินเชื่อบ้าน ธอส. จะแบ่งออกเป็น 3 โครงการด้วยกัน คือ 1. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (บุคลากรภาครัฐ) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 

          เป็นโครงการที่ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการรัฐ และประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่ประกอบอาชีพประจำและอิสระ 

          วงเงิน : 
          - สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1 ล้านบาท  
          - สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/เดือน วงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2 ล้านบาท  

          ระยะเวลาผ่อน : ระยะเวลาการกู้ไม่น้อยกว่า 7 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี

   ค่าธรรมเนียม : ผู้กู้จะได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียม ดังนี้
          - ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ 
          - ค่าประเมินราคาหลักประกัน
          - ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม 
          - ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 

          ตรวจสอบเอกสารที่ใช้ยื่นประกอบการสมัครได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 

รัฐบาลชุดนี้มีความเข้มแข็งในการออก Promotion มาเพื่อเป็นการจูงใจประชาชนค่ะ😊

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สถานที่ท่องเที่ยวทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย ศิวพร ไตรภพ

#สถานที่ท่องเที่ยวทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
1 อำเภอพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์ / เมืองมรดกโลก
2 อำเภอบางไทร ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
3 อำเภอวังน้อย ตลาดน้ำทุ่งบัวชม
4 อำเภอบางประอิน พระราชวังบางปะอิน
5 อำเภออุทัย หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
6 อำเภอภาชี พลวงพ่อรวย วัดตะโก
7 อำเภอนครหลวง ปราสาทนครหลวง
8 อำเภอท่าเรือ หลวงพ่อโต วัดสะตือ
9 อำเภอบางปะหัน วัดมะเดื่อ ตามรอยพระเจ้าตากสิน
10 อำเภอบางบาล วัดพระขาว
11 อำเภอเสนา วัดบางนมโค
12 อำเภอบางซ้าย วัดมฤคทายวัน
13 อำเภอลาดบัวหลวง ไร่สตอเบอรี่เอพี @อยธยา
14 อำเภอผักไห่ ตลาดน้ำลาดชะโด
15 อำเภอมหาราช อุทยานมหาราชหลวงปู่ทวด อยุธยา
16 อำเภอบ้านแพรก วัดท้าวอู่ทอง ผู้สร้างเมืองกรุงเก่า


รองนายกรัฐมนตรีฯ ผลักดันท่องเที่ยวหวังสร้างการเติบโตภายในประเทศ เล็งตั้ง 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว มอบหมาย ททท. คิดแพ็กเกจกระตุ้นคนไทยเดินทางมากขึ้น ด้าน “กอบกาญจน์” เชื่อรายได้เพิ่ม ปรับเป้าปี 2559 เป็น 2.41 ล้านล้านบาท จากเดิม 2.3 ล้านล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประชุมร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เผยว่า ในปี 2559 นี้ คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ดีก็ตาม แต่ท่ามกลางปัจจัยลบกลับเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ภาครัฐจะเข้ามาสนับสนุนหรือลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยมีการเติบโตภายในประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หาแนวทางดำเนินการเพิ่มมูลค่าแหล่งท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่
ในปีนี้ท่องเที่ยวต้องมีบทบาทเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ เพื่อชดเชยการส่งออก จึงต้องมีโครงการระยะสั้นในลักษณะจูงใจให้คนท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นซึ่งแต่เดิมการท่องเที่ยวมีหลายสถานที่น่าสนใจและถูกจัดสรรให้เป็นกลุ่มอยู่แล้ว จึงต้องมีการสร้างแรงจูงใจตามมา ดังนั้น ททท.จึงต้องไปคิดแพ็กเกจท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกเดือน” นายสมคิดกล่าว
โดยอาจมีการจัดตั้ง 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว หรืออาจเป็น 1 อำเภอ 1 แหล่งท่องเที่ยว เพราะในช่วงที่ผ่านมามีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งแล้ว แต่ยังขาดการลงทุนและสร้างให้เกิดเรื่องราวที่น่าสนใจ มองว่าการท่องเที่ยวภายในประเทศจะช่วยสร้างรายได้ให้กับสินค้าเกษตรและการจ้างงาน หากสามารถทำได้เร็วและดีพองบประมาณจัดสรรอย่างถูกต้อง เม็ดเงินจะช่วยให้เศรษฐกิจดีตามไปด้วย
ทั้งนี้ ในอนาคตยังต้องสร้างแรงจูงใจให้เอกชนลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ โรงแรม ในเมื่อมีแหล่งท่องเที่ยวอยู่แล้ว หากเอกชนรายได้ต้องการสนับสนุนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ ก็จะมีมาตรการที่เหมาะสมในการสนับสนุนให้เป็นพิเศษ หรือจูงใจนักลงทุนให้มากที่สุด
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เผยว่า จากเป้ารายได้ของการท่องเที่ยวในปี 2559 ที่คาดการณ์ว่าจะได้ราว 2.3 ล้านล้านบาทนั้น ขณะนี้กำลังมีแผนหลายด้านเพื่อผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศเกิดขึ้นมากกว่าเดิม ควบคู่ไปกับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม จึงได้มีการปรับเป้าใหม่เป็น 2.41 ล้านล้านบาท
ส่วนแนวทางที่เห็นว่าจะผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยมีรายได้พร้อมกับมีคุณภาพได้นั้น ต้องเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวให้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสินค้าใหม่จากการท่องเที่ยว ก็จะเป็นปัจจัยในการส่งเสริมให้เกิดรายได้
อีกทั้ง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังเตรียมหารือร่วมกับกรมสรรพากร และกระทรวงการคลัง พิจารณาเปิดให้คนไทย ที่ใช้บริการเส้นทางการบินในประเทศซึ่งจะสามารถช็อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ได้ด้วย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้เพิ่มขึ้น หลังจากมีผลตอบรับที่ดีในโครงการช็อปช่วยชาติ

ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ทททนายยุทธศักดิ์ สุภสร เผยว่า เพื่อเป็นการสร้างแจงจูงใจในการให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น จึงมีแผนจะจัดแคมเปญ “เที่ยวช่วยไทย” ซึ่งจะมีการกำหนดแพ็กเกจที่มีความน่าสนใจออกมารวมถึงประชาชนยังสามารถลุ้นชิงโชคทุกเดือนจำนวน 1 ล้านบาท อาจให้ภาคเอกชนร่วมมือในการสนับสนุนด้านสินค้าของการจัดกิจกรรม หรือลดราคาห้องพักตามวันเกิดและมอบโปรโมชั่นในการเข้าพัก 2 คืน มอบส่วนลด 50% ในคืนที่ 3 และการทำสินค้าปลอดภาษี เพื่อให้เกิดการจับจ่ายภายในประเทศ.
รองนายกฯสมคิด จัด 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว
http://thaitribune.org ,First posted: 12 มกราคม 2559 | 18:50

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

แม้ความจริงทรมาน ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเธอ







มีสองอย่างที่มันเอากลับคืนมาไม่ได้ เวลา , ความรู้สึก



เราอยากเป็นความทรางจำที่ดีของใครหลายๆ คนนะ



#ฉันอาจเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของเธอ

#แต่เธอคือปาฏิหาริย์ในชีวิตฉัน


วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

คิดถึง

คิดถึง


บรรยากาศรอบตัวที่หวลให้รำลึกถึง

ความสัมพันธ์...ที่แฝงตัวอยู่ในทุกอนู

ความรักไม่คลาย ความคิดถึงก็เช่นกัน

ตัวแปรที่สำคัญที่ "กาลเวลา" วันนี้ พรุ่งนี้ เมื่อวาน

ทุกข์เพราะยึดติด ทุกข์เพราะวางเฉย ละทิ้งกับปัญหาเล็กน้อย

การก่อตัวความจิต

...................

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ผ่านมาแล้วครึ่งปี 2018

ผ่านมาแล้ว .. ครึ่งปี
ไวเหมือนกัน .. น๊ะเนี้ย
บางคน ... ก็มีการเปลี่ยนแปลง
บางคน ... ก็ยังใช้ชีวิต .. เหมือนเดิม

แต่... ก็ต้อง ' ขอบคุณตัวเอง ' อีกครั้งน๊ะ ...
เก่งมาก .. ที่ผ่าน ' เรื่องราว ' มาได้ ... จนถึงตอนนี้

สิ่งที่ ... สำคัญที่สุด ก็คงจะเริ่ม ... จากตัวเราก่อน
หา ' ความสุข ' .. หาสิ่งที่ชอบ .. ออกไปเที่ยวเจอสิ่งใหม่ๆ
สร้าง ' รอยยิ้มให้ตัวเอง ' .. 😊 เป็น ' รอยยิ้ม ' ให้คนรอบข้าง ...
มองบวก..กับชีวิตให้มากๆ ... แล้วเรา " ก็จะมีความสุข ...

สิ่งไหนที่หายไป ... หรือแม้แต่ .. บางคนที่หายไป
มันก็... เป็นธรรมดาแหละ .. ที่ยัง ' คิดถึง ' ยังมี... ความห่วงใย
แต่... เราก็ยังเชื่อว่า .. เค้า " ก็คง มีความสุขดี .. ไม่ต่างกัน

รอยต่อ .. ของ ' ชีวิต ' ที่ไม่คาดคิดว่า... จะเกิด
บางเรื่อง ... มันก็สอนเรา
บางเรื่อง ... มันก็ทำให้เรา" อ่อนแอ
แต่... ทุกเรื่องจะสอน ... ให้เราเข้มแข็ง และก้าวผ่านไปได้

สุข-ทุกข์ .. ของคนเรา มันอยู่ที่... เราจะมอง
ไม่โกธร .. ไม่เกลียด .. ไม่เอามา ' ทุกข์ในใจ ' ก็พอ
คนไหนไม่รัก ... คนไหนไม่ดี ... ก็ถอยห่างออกมา
เวลา .. จะ ' คัดกรองสิ่งที่ไม่ดี ' ให้... ออกไปเอง

สิ่งไหนดี .. คนไหนดีกับเรา ... ก็จง ' รักษา ' เค้าไว้
อย่า... เอาแต่มองตัวเอง .. แล้ว ' ทำลายความรู้สึก ' คนอื่น
คำขอโทษ " ก็เหมือนกัน ... อย่าขอโทษ " ถ้ายังทำแบบเดิม
รู้จักขอบคุณ ... รู้จักให้สิ่งดีดี ... กับคนที่เค้า .. ดีกับเราด้วย

' ชีวิต ' มันก็ ... งี้แหละ
ผิดพลาด ... ก็แค่เริ่มต้นใหม่
มีความหวัง .. มีความฝัน .. และพาตัวเองไปให้ถึง
แต่ก็ยัง ... ไปคาดหวังมาก เพราะถ้า... ผิดหวัง" เราจะเจ็บ

ขอให้ ... เป็นอีกเดือนที่ ' ดี '
ขอให้ ... เป็นอีกเดือนที่มีแต่ ' รอยยิ้ม '
ขอให้ ... เป็นอีกเดือนที่เจอแต่ ' ความสุข '

อยู่เป็น ... เรื่องราวที่ดี
อยู่เป็น ... ความรักให้กัน
อยู่กับเรา ... ก่อนน๊ะ 😉💕

🍒🌸🍁🍀🌸🌸🍒🍁🍁🍒🌸🌸🍀🍁🌸🍒

#JulyWish Cr : เพจ #เมื่อวาน

อักษร " คอย ออกเสียง

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ช้ำคือเรา - นิตยา บุญสูงเนิน [Cover By สมอารมณ์]



ไม่มีคำลาจากเธอสักคำ

ฉันยืนเหม่อมองจนเธอลับห่างไกล

ปล่อยให้ฉันเคว้งคว้าง

เหมือนคนเจียนบ้า

ไม่มีเธอดูแล แล้วฉันจะอยู่อย่างไร



ก็ตั้งแต่นี้เราคงต้องทำใจ

เพราะถึงอย่างไรเธอคงไม่กลับมา

สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ก็คือน้ำตา

ที่เธอ ฝากกับฉันไว้ก็เกินพอ



ก็คงได้รู้แล้วว่า เธอไม่จริงใจ

เราไม่มีความหมาย ดูเธอไม่มีน้ำใจ

ไปจากฉันง่ายดายโดยไม่มีร่ำลา



ก็คงได้รู้แล้วว่าเธอไม่เคยลืม

เธอยังมีเยื่อใย

กับคนที่เธอเคยชิดใกล้

และเขาเคยทำร้ายเธอ

คนที่ทนเจ็บช้ำคือ เรา



ก็ตั้งแต่นี้เราคงต้องทำใจ

เพราะถึงอย่างไรเธอคงไม่กลับมา

สิ่งที่เหลือทิ้งไว้ก็คือน้ำตา

ที่เธอ ฝากกับฉันไว้ก็เกินพอ



ก็คงได้รู้แล้วว่า เธอไม่จริงใจ

เราไม่มีความหมาย ดูเธอไม่มีน้ำใจ

ไปจากฉันง่ายดายโดยไม่มีร่ำลา


วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

แบ่งปันกับใคร by Siwaporn Traiphop

แบ่งปันกับใคร

ณ ร้านข้าวต้มในคืนหนึ่ง คนสองคนกับบทสนทนาแสนอันเรียบง่ายตามประสาคนคุ้นเคย
บลา บลา ๆๆๆๆๆๆ
ประโยคหนึ่งกล่าวว่า
เค้า!!!!  อืมมมมม นะ.....อยากมีบ้านปูนเปื่อยสวยๆ ติดภูเขา ไว้นั่งจิบกาแฟ ฟังเสียงนกในยามเช้า
แต่สะดุดตรงคำถาม แล้วคุณจะนั่งดื่มกาแฟกับใคร??? ใช่สิ+++!!!!  ชีวิตจะแบ่งปันกับใคร??


คุณรู้ตัวไหมว่า คุณเป็นคนโชคดี
มีผู้คนมากมายรายล้อม และพร้อมจะยอมให้ ให้ อยู่เสมอ
ร้อยคนที่เจอะเจอ พันคนที่อยากจะทำ ทำเพื่อคุณ

ใช่ไหม คุณรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ว่าคุณยื่นมือออกไปเมื่อไหร่ก็เจอ




เวลาที่มีความสุขใจ ใครเล่าที่เราคิดถึงก่อน?
เวลาที่มีเรื่องทุกข์ใจ ใครกันเล่าที่เราคิดถึงก่อน?

ชีวิตคนเรามีทุกข์มากกว่าสุข
เวลามีความสุข มีคนมากมายที่พร้อมจะแบ่งปันความสุข
ไม่เพียงแต่เฉพาะคนรัก กระทั่งเราเองยังสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้

แต่ไม่ใช่จะทุกคน ที่พร้อมจะแบ่งปันความทุกข์ของเรา
ใคร คือ คนที่พร้อมแบ่งปันความทุกข์กับเราด้วย

.............

ในเวลาที่มีความทุกข์เศร้า เราคิดแบ่งปันกับใคร?

ในช่วงชีวิตหนึ่ง .. เราจะมีใครบางไหมนะ

ใครบางคนที่ต่อกันติดแม้ไม่ต้องสบตา
ใครบางคนที่แม้ไม่ต้องเอ่ยวาจา ก็รู้ว่าต้องการสิ่งไหน
ใครบางคนที่ไม่เคยเอ่ยปากว่ารัก ก็รู้ใจ
ใครบางคนที่หันหลังไปพันครั้ง ก็ยังไม่เคยเกลียดเลย


อ่านแล้วนะ อ่านข้อความที่คุณส่งมาให้ มันยาวมาก
มากเสียจนอยากจะเรียกมันว่า เป็นข้อความสั่งเสียของคุณก็ว่าได้
นับว่าเก่ง ที่ยังทรงสติของตัว เขียนความระลึกถึงใคร ๆ ได้มากมาย

อยากบอกกับคุณว่า ขอบคุณ ขอบคุณนะ
ขอบคุณมากยิ่งกว่า ที่ให้ ใคร คนนั้นเป็นฉัน
และนั่น คงหมายถึงว่า ฉัน ช่างเป็นคนโชคดียิ่งกว่าใคร ๆ

สติสุดท้าย ในยามเจ็บปวดอ้างว้าง
ใครบางคนนั้นกลับคิด คิดถึงในเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีต่อกัน
ยามทุกข์ที่สุดแล้ว เราเลือกจะคิดถึงใคร
อ่านแล้วอยากขอบคุณผู้คนเหล่านั้น

คนเรา เมื่อความตายมายืนอยู่ตรงหน้า
และพร้อมจะจับมือลากสติออกไปด้วยในทุกขณะ
ความโดดเดี่ยวในจิตใจ ย่อมร้องหาใครสักคนเป็นแน่แท้
จะยึดเหนี่ยว หรือ จะปล่อยวาง
หัวใจเราเองใช่ไหม ที่เป็นผู้กำหนด หาใช่ใครไหนเลย

แด่แม่ผู้จากไป by ศิวพร ไตรภพ

"รัก" คงอยู่ทุกขณะจิต
เชื่อเถอะว่ายังมีแม่ที่รักเราอยู่
อ่านจากเพื่อนคนหนึ่งที่อัพเดทไว้ FB
ประโยคของเขา สะกิดความรู้สึกในใจ
คนเรา ไม่ต้องการอะไรมากมายนักหรอกในชีวิต
ยามแก่เฒ่า ชราภาพลงไปแล้ว คงเหลือแต่ความเป็นเพื่อนที่จะมีให้กัน
อยู่ดูแลกันไป ทั้งในยามสุข ทุกข์ อยู่อย่างคนหง่อม ๆ ด้วยกัน
ไหนเลยจะอยากมาเบียดเบียนเวลาของลูกหลานที่ช่างมีค่าในทุกนาที
ลองย้อนกลับมองดูตัวเราเถิด ร้อยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ สารพัดจะเอามาเอ่ยอ้าง
งานด่วน งานเยอะ เจ้านายจะเอารายงาน ต้องเสร็จ ต้องได้ตัวเลข 
ยังปิดงบไม่ได้ ติดประชุมอยู่ ต้องไปพบลูกค้า 
แค่เหตุผลพื้น ๆ ที่เราจะบอกว่า ไม่มีเวลา
เสาร์อาทิตย์ล่ะ ไม่ไหวแม่ เหนื่อยมากเลย ขอพักหน่อย
เดี๋ยวต้องซักผ้าอีกกองเบิ้มเลย ผ้ายังไม่ได้ซัก นัดเพื่อนไว้ต้องไปกินข้าว
ไอ่นู่นมันจะแต่งงาน ไอ่นี่มันจะบวช หยุดตั้งสามสี่วันขอไปเที่ยวก่อนนะแม่
และถ้าแต่งงานไปแล้ว .. 
เหตุผลเดียวเลย ลูกต้องไปเรียนพิเศษ ไม่ว่างไปหานะแม่
ไม่ใช่แค่เขาเราก็เป็น ร้อยเหตุผลที่อยากจะนอกลิ้งเกลือกเทือกอยู่บนเตียง
หลังจากออกไปผจญกรรมนอกบ้าน 
พอมีเวลาแค่สองวันก็อยากจะอยู่กับบ้าน อ่านหนังสือ ดูทีวี 
ลืมคิดไปว่า 
คนที่อยู่บ้านทั้งเจ็ดวัน
เค้าคงอยากไปผจญกรรมนอกบ้านบ้าง 
เพราะเบื่อ ทีวีไม่มีอะไรจะดู หนังสือที่ตาฟางมองไม่ค่อยเห็น
ยิ่งไลน์ FB.. ลูกหลานก็ห้ามไม่ให้เล่น เพราะกลัวโทรศัพท์จะเสีย 55
เราไม่รู้หรอก เราไม่เคยมองเห็น เพราะเราไม่ได้ใส่ใจ
นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ดูแลท่าน นานแค่ไหนแล้ว ที่ท่านเฝ้าแต่ถามเราว่า อาทิตย์นี้เข้ามาหาแม่ไหม??


เชื่อเถอะว่ายังมีแม่ที่รักเราอยู่

อ่านจากเพื่อนคนหนึ่งที่อัพเดทไว้ FB
ประโยคของเขา สะกิดความรู้สึกในใจ

คนเรา ไม่ต้องการอะไรมากมายนักหรอกในชีวิต
ยามแก่เฒ่า ชราภาพลงไปแล้ว คงเหลือแต่ความเป็นเพื่อนที่จะมีให้กัน
อยู่ดูแลกันไป ทั้งในยามสุข ทุกข์ อยู่อย่างคนหง่อม ๆ ด้วยกัน
ไหนเลยจะอยากมาเบียดเบียนเวลาของลูกหลานที่ช่างมีค่าในทุกนาที

ลองย้อนกลับมองดูตัวเราเถิด ร้อยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ สารพัดจะเอามาเอ่ยอ้าง
งานด่วน งานเยอะ เจ้านายจะเอารายงาน ต้องเสร็จ ต้องได้ตัวเลข
ยังปิดงบไม่ได้ ติดประชุมอยู่ ต้องไปพบลูกค้า
แค่เหตุผลพื้น ๆ ที่เราจะบอกว่า ไม่มีเวลา


เสาร์อาทิตย์ล่ะ ไม่ไหวแม่ เหนื่อยมากเลย ขอพักหน่อย
เดี๋ยวต้องซักผ้าอีกกองเบิ้มเลย ผ้ายังไม่ได้ซัก นัดเพื่อนไว้ต้องไปกินข้าว
ไอ่นู่นมันจะแต่งงาน ไอ่นี่มันจะบวช หยุดตั้งสามสี่วันขอไปเที่ยวก่อนนะแม่
และถ้าแต่งงานไปแล้ว ..
เหตุผลเดียวเลย ลูกต้องไปเรียนพิเศษ ไม่ว่างไปหานะแม่


ไม่ใช่แค่เขาเราก็เป็น ร้อยเหตุผลที่อยากจะนอกลิ้งเกลือกเทือกอยู่บนเตียง
หลังจากออกไปผจญกรรมนอกบ้าน
พอมีเวลาแค่สองวันก็อยากจะอยู่กับบ้าน อ่านหนังสือ ดูทีวี


ลืมคิดไปว่า
คนที่อยู่บ้านทั้งเจ็ดวัน
เค้าคงอยากไปผจญกรรมนอกบ้านบ้าง
เพราะเบื่อ ทีวีไม่มีอะไรจะดู หนังสือที่ตาฟางมองไม่ค่อยเห็น
ยิ่งไลน์ FB.. ลูกหลานก็ห้ามไม่ให้เล่น เพราะกลัวโทรศัพท์จะเสีย 55


เราไม่รู้หรอก เราไม่เคยมองเห็น เพราะเราไม่ได้ใส่ใจ
นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้ดูแลท่าน นานแค่ไหนแล้ว ที่ท่านเฝ้าแต่ถามเราว่า อาทิตย์นี้เข้ามาหาแม่ไหม??



วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

เกินพอดีคือไม่พอดี

ไม่ได้เขียนผ่านตัวอักษรเสียนาน

" นำมาทำไม วัตถุประสงค์ที่ตีพิมพ์มาเพื่ออะไร รู้ไหมเอาหนังสือมาถวายแบบนี้ โยมไม่ได้บุญหรอก คนที่จะได้บุญคือพระ เพราะพระต้องนำไปแจกอีก
ทำไมโยมไม่เอาไปแจกเอง คนส่วนใหญ่เอาหนังสือไป ไม่อ่านกันหรอก เปิดผ่านไปแล้วก็วางเอาไว้ แบบนี้จะได้บุญอะไร โยมทำแบบนี้ก็เหมือนทำกำไรให้สำนักพิมพ์ ให้ได้เงิน บุญก็ไม่ได้ ต้องเสียเงินอีก บุญเกิดจากอะไร เกิดจากการภาวนา เพียร ถือศีล แบบนี้ถึงจะได้บุญ ( อันนี้เราก็ทำค่ะ เป็นปกติ ) ......... หรือไม่ก็บริจาคเงินเอาไปพัฒนาวัด ยังจะได้บุญมากกว่า "  

ตัดมาจากพันธ์ทิพย์

พอดีมีโอกาสถวายหนังสือสวดมนต์เย็น พระท่านต้องการ 100 เล่ม มีคนร่วมบริจาค 200 เล่ม
อีก 100 เล่ม เลยรอทำถวายวัดที่มีความต้องการหนังสือสวดมนต์

เมื่อวานมีโทรศัพท์จากสำนักพิมพ์ว่า "พิมพ์ทั้งหมด 300 เล่มต้องการอีกไหม"
อืมมมมม น่าคิด

เกินพอดีคือไม่พอดี อุปสงค์ อุปทาน ต้องตรงกัน

“อกฺขรา เอกํ เอกญฺจ พุทฺธรูปํ สมํ สิยา

สร้างอักขรธรรมหนึ่งอักษร เท่ากับสร้างพระพุทธรูปหนึ่งองค์”
อานิสงส์แจกหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน 11 ประการ
ธรรมทาน เป็นเครื่องเตือนสติให้เราระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต เป็นหนทางหนึ่ง อย่างเช่นการรู้คุณของพ่อแม่ รู้คุณแผ่นดินเกิด คุณธรรมทั้งหลายนี้ ถือว่าเป็นต้นน้ำแห่งพระธรรม(ความเป็นจริง) ที่สามารถฉุดช่วยผู้คนให้พ้นภัยเวียนได้ทัน เพราะการชี้แนะ จะด้วยกุศโลบายใดๆ ถือเป็นเป็นมหากุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์แก้วเจ็ดชั้น

ขอ ให้พระธรรมอันลึกซึ้ง จงสถิตอยู่ทุกดวงจิต คอยติดตามปกป้องคุ้มครอง ช่วยเตือนสติให้บังเกิดความสำนึกรู้คุณของเหตุและรู้คุณของผล จากเจตนาด้วยกาย วาจา ใจ อันเป็นผลตอบแทนแก่บุพการีให้สมกับความเป็นมนุษย์ทั้งหลายอย่างแท้จริง


1. กรรมเวรจากอดีตชาติจะได้ลบล้าง

2. หนี้เวรจะได้คลี่คลาย พ้นภัยจากทะเลทุกข์

3. โรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวรจะพ้นไป

4. สามีภรรยาที่แตกแยกจะคืนดีต่อกัน

5. วิญญาณของเด็กที่แท้งในท้องจะได้ไปเกิดใหม่

6. กิจการงานจะราบรื่นสมความปรารถนา

7. บุตรจะเฉลียวฉลาดและเจริญรุ่งเรือง

8. บารมีคุ้มครองลูกหลานให้อยู่เย็นเป็นสุข

9. พ่อแม่จะมีอายุยืน

10. ลูกหลานเกเรจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนดี

11. วิญญาณทุกข์ของบรรพบุรุษจะพ้นจากการถูกทรมานไปสู่สุคติ

การแจกหนังสือเป็นธรรมทาน อานิสงส์จากการให้ธรรมทาน จะเป็นไปตามความมุ่งมั่นศรัทธาและความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งผู้ให้จะสัมผัสรับรู้ได้เอง.

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

แนวคิดทฤษฏีการบริหารการจัดการ cr.by adisony


แนวคิดนักบริหารกับมิติการจัดการ  : Thomas J. Peters   ผลงานที่ยอดเยี่ยม  คือ  Insearch of Excellence


คุณสมบัติที่ทำให้องค์กรเป็นเลิศ 8 ประการ
1.  การมุ่งเน้นที่การปฏิบัติ (Bias for Action)
2.  การมีความใกล้ชิดกับลูกค้า (Close to the Customer)
3.  การให้ความอิสระในการทำงานและสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจการ (Autonomy and Entrepreneurship)
4.  การเพิ่มผลผลิตโดยพนักงาน (Productivity Through People)
5.  การติดตามงานอย่างใกล้ชิดและการใช้ค่านิยมเป็นแรงผลักดัน (Hands-on and Value Driven)
6.  การทำแต่ธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ (Stick to the Knitting)
7.  การมีรูปแบบที่เรียบง่ายและใช้พนักงานอย่างมีประสิทธิภา   (Simple Form and Lean Staff)
8.  การเข้มงวดและผ่อนปรนในเวลาเดียวกัน (Simultaneous Loose tight Properties)

องค์ประกอบองค์การแห่งความเป็นเลิศ


1.            Robert  H.Waterman JR -- โรเบิร์ต เอช วอเทอร์แมน จูเนียร์  เป็นชาวอเมริกัน จบการศึกษา ปริญญาตรีgeophysicsจาก Colorado School of Mines ปริญญาโท MBA จาก Stanford University

ประวัติการทำงานWaterman เป็นที่รู้จักเคียงคู่กันมากับ Tom Peters ที่โด่งดังมาจากผลงานวิจัยที่เอามาเขียนเป็นหนังสือ In Search of Excellenceและยังเป็นนักพูดชั้นเยี่ยม   เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับ McKinsey & Company ที่เดียวกับ Tom Peters เป็นเวลา 21 ปี  และมีบริษัทที่ปรึกษาของตนเองชื่อ The Waterman Group, Inc. Waterman ใช้คำว่า Adhocracy กับองค์กร ที่นับเป็นจุดเน้น   คำว่าองค์กรที่ถือหลักการ adhocracy จะเป็นองค์กรที่มีโครงสร้างเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อน
                       ท่านให้แนวคิดว่ายุคที่มีการเปลี่ยนแปลงสูง องค์กรต้องสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้นได้  สิ่งสำคัญที่องค์กรปัจจุบันต้องการมากคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนการใช้เทคนิคต่างๆในการแก้ปัญหาในหนังสือAdhocracy: the Power to Change ท่านได้ใช้ทักษะจากการเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการมากว่า 25 ปี นำเสนอวิธีการในการที่จะสร้างองค์กรแบบ adhocracy และผลักดันให้มันทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างทีมงานและการแยกกระจายหน่วยงานที่ใหญ่และซับซ้อนออกเป็นหน่วยย่อย สร้างวัฒนธรรมให้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นธรรมชาติ
โธมัส เจ ปีเตอร์ส (Thomas J. Peters) และโรเบิร์ต เอช วอเตอร์แมน จูเนียร์(Robert H.Waterman,Jr.) ในการค้นหาความเป็นเลิศ ในช่วงต้นปี 1977   พบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานนอกจากกลยุทธ์และโครงสร้าง ยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์เชื่อมโยงกันทั้งหมด 7ปัจจัยได้แก่
โครงสร้าง(structure)
กลยุทธ์(strategy)
 
บุคลากร(staff)
สไตล์การจัดการ(style)
ระบบ(systems)
ค่านิยมร่วม(shared value)
ทักษะ(skills)
ซึ่งตัวแปร 2 ตัวแรกคือโครงสร้างและกลยุทธ์ เปรียบเสมือนเป็นส่วนที่เรียกว่าฮาร์ดแวร์ ซึ่งผู้จัดการในอดีตให้ความสนใจ ส่วนตัวแปรอีก5 ตัวที่ค้นพบใหม่ในอดีตผู้จัดการมักไม่ให้ความสนใจมากนัก ซึ่งเปรียบเสมือนซอฟท์แวร์ แมคคินซีย์ เรียกตัวแปรเหล่านี้ว่า กรอบ 7 – S
การจัดองค์การให้มีประสิทธิภาพ
Thomas J. Peters & Robert H. Waterman, Jr. เขียนในหนังสือชื่อ  In Search of lExcellence. เรียบเรียงเป็นไทยโดย วีรชัย ตันติวีระวิทยา(กทมซีเอ็ดยูเคชั่น, 2530)   คุณลักษณะ 8 ประการของเชิงการบริหารของบริษัทอเมริกันที่ประสบความสำเร็จ คือ
1. มุ่งเน้นการปฏิบัติ (a bias for action)
2. มีความใกล้ชิดกับลูกค้า (close to the customer)
3. มีความอิสระในการทำงานและความรู้สึกเป็นเจ้าของกิจการ ((autonomy and entrepreneur-ship)
4. เพิ่มผลผลิตโดยอาศัยพนักงาน (productivity through people)
5. สัมผัสกับงานอย่างใกล้ชิดและความเชื่อมั่นในคุณค่าเป็นแรงผลักดัน (hands-on and value driven)
6. ทำแต่ธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและเกี่ยวเนื่อง (stick to the  knitting)
7. รูปแบบเรียบง่ายธรรมดา พนักงานอำนวยการหรือส่วนกลางมีจำกัด (simple form and lean staff)
8. เข้มงวดและผ่อนปรนในเวลาเดียวกัน (simultaneous loose-tight properties)


McKinsey 7-S Framework


ผลจากการศึกษาดังกล่าวได้ถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือ ชื่อ    In Search of Excellence ปี 1982  พอสรุปได้ดังนี้
   Structure         ðรูปแบบเรียบง่ายธรรมดา พนักงานอำนวยการมีจำกัด  (simple form & lean staff)
   Strategy           ðมีความใกล้ชิดกับลูกค้า (close to the customer)
                                ðทำธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและเกี่ยวเนื่อง   (stick to the knitting)
   Staff                    ð มีอิสระในการทำงานและความรู้สึกเป็นเจ้าของ   (autonomy & entrepreneurship)
                              ð เพิ่มผลิตภาพโดยพนักงาน  (productivity through people)         
 Style                    ðสัมผัสกับงานอย่างใกล้ชิด  (hands-on)
 Shared value   ðความเชื่อมั่นในค่านิยมเป็นแรงผลักดัน    (value driven)
 System                   ðมุ่งเน้นที่การปฏิบัติ
 Skill                       ðเข้มงวดและผ่อนปรนในเวลา เดียวกัน   (simultaneous  loose-tight   properties     
การนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้กับสถานประกอบการและหน่วยงานในประเทศไทย
บริษัทฯ ในกลุ่มสมบูรณ์ได้ให้โอกาสกับพนักงานในการพัฒนางานอาสาสมัครอย่างต่อเนื่องทุกๆ สองหรือสามเดือน โดยพนักงานเป็นผู้ค้นหาปัญหาที่อยู่รอบโรงงานและมาประชุมเพื่อเลือกสถานที่ในการทำกิจกรรมอาสา โดยที่บริษัทฯจะสนับสนุนค่ารถ ค่าอาหารและให้เวลากับ พนักงานไปทำกิจกรรมอาสาเหล่านั้น เป็นต้นกิจกรรมอาสาสมัครขององค์กรธุรกิจข้างต้น เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ผู้บริหารและพนักงาน ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรธุรกิจ มีงานวิจัยจำนวนมาก ที่ศึกษาถึงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเมื่อทำกิจกรรมอาสาสมัคร พนักงาน นับตั้งแต่สังคมหรือชุมชนที่ได้รับการช่วยเหลือ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้
1.องค์กรธุรกิจที่ได้ชื่อเสียง และการยอมรับ ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดีจากสังคม
2.หุ้นส่วนหรือนักลงทุน ได้รับผลประโยชน์จากราคาหุ้นที่ไม่ถูกกระทบ(กรณีที่บริษัทถูกประท้วงหรือได้รับการจัดลำดับใน Dow Jones Sustainability Index(เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา)
3.พนักงานมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน มีทัศนคติที่ดีต่อองค์กร เกิดความสามัคคี และการสร้าง (Team Building) ขวัญ กำลังใจและความภาคภูมิใจในองค์กร และมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น
4.ลูกค้ามีทัศนคติที่ดีต่อองค์กรและส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ และความภักดีในสินค้า และที่สำคัญมีงานวิจัยจำนวนมากที่สอบถามผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่แสดงออกชัดเจนในการทำดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม หากสินค้ามีคุณภาพใกล้เคียงกัน