วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2559

เปิดตำนานรัก"มะเมี๊ยะ"โศกนาฏกรรมแห่งล้านนา ของหญิงสาวชาวพม่ากับเจ้าชายเมืองเชียงใหม่

Subject: เปิดตำนานรัก"มะเมี๊ยะ"โศกนาฏกรรมแห่งล้านนา ของหญิงสาวชาวพม่ากับเจ้าชายเมืองเชียงใหม่    
  
เปิดตำนานรัก"มะเมี๊ยะ"โศกนาฏกรรมแห่งล้านนา ของหญิงสาวชาวพม่ากับเจ้าชายเมืองเชียงใหม่     

ตอนนั้นเชียงใหม่เป็นประเทศราชของสยาม   ทางเชียงใหม่ส่ง  เจ้าดารารัศมี    ซึ่งเป็นเจ้าอาของเจ้าน้อยไปอภิเษกกับ ร. 5  เป็นการผูกสัมพันธ์   ตอนนั้นเจ้าดารารัศมีอายุแค่ 13 เอง...โอ้! จอร์จ นี่เรื่องจริงตามประวัติศาสตร์เลยนะ เจ้าน้อยถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก เป็น รร.แคธอลิกของฝรั่งที่พม่า โดยแอบส่งไป ขี่ช้างไป เพราะตอนนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษซึ่งมีเรื่องกับไทยอยู่ 

        เจ้าน้อยไปตอนอายุ 15 เพราะทางบ้านต้องการให้ได้ภาษาอังกฤษ    เพราะค้าขายกะพม่า เจ้าน้อยเรียนอยู่หลายปี วันหนึ่งไปเดินเล่นที่ตลาด ได้พบมะเมี้ยะแม่ค้าสาวสวย  ซึ่งเพิ่งมาจากตองอู   เจ้าน้อยอายุ 19 มะเมี๊ยะอายุ 15 ก็ตัดสินใจแต่งงานกัน จนอายุ 20 เรียนจบถูกเรียกกลับเชียงใหม่    เจ้าน้อยเลยเอาเมียกลับมาด้วย โดยให้ปลอมเป็น เด็กรับใช้ชาย เอาเมียไปแอบในเรือนเล็ก   โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้หมั้นเจ้าบัวนวลเอาไว้ให้ 
เจ้าน้อยไม่ยอมแต่งงาน    เลยเปิดเผยว่ามีเมียแล้วคือมะเมี้ยะ เอามะเมี้ยะมากราบเจ้าพ่อเจ้าแม่แต่ไม่ได้รับการยอมรับ 

        เรื่องนี้ไปถึงสยาม ร. 5 กะเจ้าดารารัศมีเห็นว่าไม่ควร     เลยส่งผู้สำเร็จราชการมาเจรจา บอกว่าเจ้าน้อยจะมีเมีย กี่คนไม่ใช่ปัญหาแต่ต้องไม่ใช่สาวพม่า เพราะว่าคนพม่า ถือสัญชาติอังกฤษ เดี๋ยวอังกฤษจะถือโอกาสแทรกแซง ว่าแต่งกะพม่า ก็ต้องถือว่าเป็นพม่าด้วย   ไปอยู่กะเมียที่ พม่าก็ไม่ได้     ที่สำคัญเจ้าน้อย เป็นเจ้าชายของล้านนา    ถูกวางตัวไว้ให้เป็นรัชทายาทล้านนา เท่ากับว่าสยามอาจต้องเสียเชียงใหม่ให้อังกฤษ    ก็เลยบังคับส่งมะเมี้ยะกลับพม่า     เจ้าน้อยสัญญาว่าอีก 3 เดือนจะไปรับมะเมี้ยะกลับ ทั้งคู่สาบานกันไว้ว่าจะไม่รักใครอื่น หากใครผิดคำสาบานขอให้อายุสั้น ตอนที่จะส่งมะเมี้ยะกลับพม่านั้นตรงนี้เป็นส่วนของตำนานเลย 

        " ตอนนั้นมะเมี้ยะโพกผมไว้พอจะไปก็ก้มลงกราบเท้า   เจ้าน้อยที่ประตูเมือง ชาวบ้านออกมามุงกันทั้งเมืองเพราะได้ยินว่ามะเมี้ยะงามจ๊าดนัก พอกราบเสร็จ ก็เอาผ้าโพกผมออก  แล้วสยายผมเอามาเช็ดเท้าเจ้าน้อย จงรักภักดีบูชาสามีสุดชีวิต แล้วก็กอดขาร้องไห้ เจ้าน้อยเองก็ร้อง   ทำเอาคนที่มามุงร้องไห้  ไปทั้งเมืองด้วยความสงสารความรักของทั้งคู่ " 

         ต่อมาเจ้าน้อยโดนเรียกไปสยาม พอเข้าไปก็โดนจับแต่งงาน     เจ้าดาราฯ จัดเจ้าบัวชุม ซึ่งเป็นพระญาติ และเป็นสาวที่สวยที่สุดในตำหนักเจ้าดารารัศมี ร่ำลือกันว่าเล่นดนตรีไทยเก่ง แต่ดูรูปแล้วถ้ามาสมัยนี้ ถือว่าหน้าตาธรรมดาอ่ะ ถ้าในสมัยที่ผู้หญิงไม่มีศัลยกรรมคงจัดว่าสวย แต่ที่นี่แน่ๆ มินิไซค์มากๆ สาวๆ สมัยนั้น 

         ด้วยเหตุนี้เจ้าน้อยก็เลยต้องแต่งแล้วถูกกักอยู่ที่นั่น ตอนนั้นเจ้าพ่อของเจ้าดาราฯ สิ้นพระชนม์ พระญาติทางสยาม ไม่อนุญาตให้เจ้าล้านนาพระองค์ใดในวังขึ้นไปประกอบพิธีปลงพระศพ เป็นเรื่องการเมืองเตะถ่วงการแต่งตั้งเจ้าครองแคว้นคนใหม่เอาไว้ระยะ หนึ่ง     เจ้าอาของเจ้าน้อยได้ขึ้นเป็น เจ้าองค์ใหม่     เจ้าพ่อได้เป็นเจ้าราชบุตร(อุปราช)    เท่ากับว่าเจ้าน้อยเป็นรัชทายาทอันดับ 3 ถ้าสิ้นเจ้าสองพระองค์นี้เจ้าน้อยจะครองเชียงใหม่ ก็ยิ่งไม่มีทางได้รับมะเมี้ยะกลับมา 

         มะเมี้ยะรอเกิน 3 เดือนแล้วเจ้าน้อยไม่มาตามสัญญาเลยไปบวชชี เพื่อพิสูจน์รักแท้ว่าจะไม่มีคนใหม่ 

         ต่อมา...เมื่อได้ยินว่าเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่แล้วเลยมาดักที่คุ้ม  แต่เจ้าน้อยไม่ยอมออกมาพบ รอนานเท่าไรก็ ไม่ยอมออกมา จริงๆ แล้วเจ้าน้อยแอบดูอยู่ข้างหน้าต่าง   ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าสู้หน้าที่ผิดสัญญา   ก็เลยฝากให้ท้าวบุญสูงพี่เลี้ยง เอาแหวนทับทิม กับเงินอีก 1 กำปั่น( 800 บาท) ไปให้แม่ชีมะเมี้ยะ ทางด้านแม่ชีบอกว่าไม่มาขอรักคืน เพียงแต่มาถอนคำสาบานให้ 

        เจ้าน้อยฝากมาบอกแม่ชีว่า เงินนี่ทำบุญตามแต่แม่ชีจะใช้สอยเรียกว่าบริจาคในฐานะโยมอุปฐาก ส่วนแหวนให้แทนใจว่า   หัวใจอยู่กับมะเมี้ยะเสมอ แม่ชีเสียใจมาก รับไปแต่แหวนไม่รับเงิน   สมัยก่อน 800 คงเยอะมากว่ะ 100 ปีก่อนคง 8 แสนล่ะมั้ง เงินเดือนคนสมัยนั้น 4 บาทเอง 

      เจ้าน้อยหลังจากกันกับแม่ชีคราวนั้น.....ก็เอาแต่กินเหล้าไม่มีใจรักเจ้าบัว ชุม ในที่สุดก็ตรอมใจตายหลังจากแต่งงานได้ไม่กี่ปีในขณะที่อายุแค่ 30 ปีเท่านั้นเอง 

      ในบันทึกบอกว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพิษสุรา อีก 6 ปีต่อมาหลังจากพบแม่ชีมะเมี้ยครั้งสุดท้าย ส่วนแม่ชีมะเมี้ยะ... บวชจนสิ้นอายุขัยเมื่อ 73 ปี 

       เศร้ามะ ? เรื่องนี้ไม่มีตัวอิจฉามีแต่คนหัวใจสลาย 

      ผู้บันทึกเรื่องนี้คือ เจ้าบัวนวล คู่หมั้นคนแรกที่ถอนหมั้นไปหลังจากรู้ว่าเจ้าน้อยมีมะเมี้ยะ... ส่วนเจ้าบัวชุมไม่ผิดอะไรเลย แต่สามีไม่รักก็อยู่เป็นข้าบาทจาริกาจนอายุ 81 ปี 

      เจ้าบัวนวลว่า  ตลอดชีวิตเจ้าน้อยรักผู้หญิงคนเดียวจนสิ้นลม คือ มะเมี๊ยะหลังจากนั้นเรื่องของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ก็ถูกสั่งห้ามพูดถึงไปหลายปีเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง    ต้องปิดบัง      รายละเอียดเลยหายไป  เหลือแต่ตำนาน  อุปสรรคความรักของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ไม่ใช่ฐานันดร ไม่ใช่เชื้อชาติ แต่เป็นการเมืองแท้ๆ 

       เศร้าเนอะ ความรักในตำนานมักจบลงด้วยความเศร้าสลด ทั้งที่รักเดียวทั้งสองฝ่าย น่าสงสารจริงๆ เรื่องนี้มีแต่คนน่าสงสาร เจ้าบัวชุมเมียแต่งก็น่าสงสาร ทางเจ้าดารารัศมี มีบันทึกไว้แค่ว่าทรงไม่คิดว่าเจ้าน้อย จะปักใจมั่นกับมะเมี้ยะขนาดนี้ เจ้าดารารัศมีทรงคิดว่าหลายปีผ่านไป และได้ภรรยาที่ดีพร้อมก็คงลืม ความรักครั้งแรกได้ แต่เจ้าน้อยไม่ลืมจนสิ้นชีวิต 

       เจ้าบัวนวล คู่หมั้น เมื่อแรกรู้สึกเสียหน้าแต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเห็นใจและศรัทธาในรักแท้ของ เจ้าน้อย จริงๆ แล้วเราแอบคิดว่า   ถ้าเจ้าน้อยโกหก ให้มะเมี้ยะหนีเข้าเมืองเถื่อนแล้วปลอมเป็นสาวไทย ให้เป็น เมียบ่าว เรื่องก็จบแต่มันเป็นเพราะ...เจ้าน้อยต้องการมีภรรยาคนเดียว คือ...มะเมี้ยะ 

        หายากมากผู้ชายสมัยนั้น  เรื่องรักเดียวเนี่ยแต่ก็เป็นไปตามคำสาบานนะ ผิดรักไปแต่งกับหญิงอื่นเลยอายุสั้น รูปหล่อ รักเดียว รักจนตาย ยังกะนิยายเศร้าจริงๆๆๆ...ว่าแล้วก็เผื่อแผ่ความเศร้าให้คนอื่นบ้าง 

         สังเกตมั้ยว่า ความรักที่เป็นตำนาน...มักจะมีจุดจบที่เศร้ารันทดใจ รักแฮ้ปปี้มันคงไม่กินใจพอที่จะเป็นตำนาน...สำหรับเราขอมีความสุขดีกว่าเป็น ตำนาน..เฮ้อ...อ 

แต่น่าเสียดาย...ไม่มีรูปมะเมี้ยะ คาดว่าเป็นสามัญชนคนธรรมดาเลยไม่มีรูปถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานบ้าง ไม่งั้นคงได้เห็นว่ามะเมี๊ยะงามจ๊าดแค่ไหน.... แต่บางทีการไม่เห็นหน้า... 
จินตนาการอาจทำให้มะเมี๊ยะสวยงามยิ่งในความทรงจำของผู้ที่ได้รู้เรื่องราวเธอก็ว่าได 
ณ วันนี้... 99 ปีผ่านไป เจ้าน้อยกับมะเมี๊ยะ คงได้พบกันบนเส้นทางสายดวงดาวแล้ว 
ความรักครั้งหน้า...ขอให้ไร้อุปสรรคทั้งปวง สมกับที่รอคอยกันมาแสนนาน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น