วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563

หลวงวิจิตรวาทการ (งานสุข ชีวิตสุข)

๐ ครั้นวันหนึ่งอยู่กระทรวงจนพลบค่ำ    เพราะรีบทำ"เรื่องลับ"ไม่กลับบ้าน

"เหน็ดเหนื่อยเมื่อยกรำด้วยทำงาน    แต่หัวใจเบิกบานอยู่เป็นนิจ"!!!

ใน"ร่างกาย"รู้สึกว่าทนทุกข์    แต่ก็"มีความสุขในดวงจิต"

จึงหยิบยกข้อปัญหาขึ้นมาคิด    ถูกหรือผิด?ท่านผู้อ่านวานช่วยตรอง

คือฉันตั้งปัญหาว่าอย่างนี้    มนุษย์เราที่มีอยู่ทั้งผอง

ต่างก็มีเจตน์ตั้งและหวังปอง    อยากได้ช่อง"ประสบสุข"ทั่วทุกคน!!!

๐ แต่"ความสุขนั้นคืออะไรเล่า?    เงินทองของเข้าหรือลาภผล?

สาวแสนสวยสดหรือรถยนต์?    ผู้คนบริวารหรือบ้านเรือน?"

อะไรแน่?ทำให้ใจเป็นสุข    "หนังละครที่สนุกหรือคบเพื่อน?

หรือเที่ยวเตร่เร่ร่อนตลอดเดือน?"

เชิญลองเอื้อนเอ่ยถ้อยแถลงมา....

๐ สิ่งเหล่านี้มีน้อยในตัวฉัน    แต่กระนั้น"ก็เป็นสุข"อยู่นักหนา

ส่วน"ลาภผลเงินทองของนานา    ถึงได้มาก็ไม่มีอยู่มากมาย"

บางคนว่า"ความสุขอยู่ที่ทรัพย์"   อเนกนับ"เงินทองของทั้งหลาย"

ได้กินอยู่เที่ยวสำอางอย่างมากมาย   ก็"สขกายสุขใจเพราะมั่งมี"

ฉันไม่เคยรู้จัก"ความมั่งคั่ง    และไม่หวังที่จะเด่นเป็นเศรษฐี"

เงินเดือนได้ก็ต้องใช้ไปพอดี    "ความมั่งมีเป็นอย่างไร?ไม่เคยรู้"!!!

มีที่ดินครอบครองอยู่สองไร่    บ้านเรือนก็ไม่ใหญ่พอทำอยู่-

เป็นชั้นเดียวสามห้องลองไปดู    ไม่เคยหรูสู้เสงี่ยมคอยเจียมตน!!!

แต่กระนั้น"ฉันนี้ก็มีสุข    ไม่เคยทุกข์ขุ่นเคืองเรื่องลาภผล

จะมีน้อยมีมากหรือยากจน     ไม่ร้อนรนคิดละโมบเรื่องเงินทอง"!!!

"ทรัพย์มิได้ให้สุขแก่ตัวฉัน    ความสุขนั้นมิได้อยู่ที่ข้าวของ

แต่ฉันสุขด้วยอะไร?"ลองไตร่ตรอง    ได้พบช่องตอบปัญหาว่าตามจริง

มีบางท่านยึดมั่นบรรยาย    ว่า"ความสุขของชายนั่นคือหญิง"

ฉันก็รู้อยู่บ้างจะอ้างอิง    ว่า"ไม่จริง"เหมือนคำที่รำพัน!!!

ฉันเคยอยู่ศิลปากรมาเก้าปี    "ผู้หญิงมีสวยสำอางอย่างสวรรค์"

คนก็คอยกล่าวโทษโจษจัน    เสกสรรปั้นข่าวให้ร้าวราน!!!

ฉันไม่เคยทำอะไรให้ผิดพลั้ง    ทั้งต่อหน้าลับหลังทุกสถาน

คนทั้งเมืองรู้เห็นเป็นพยาน    ที่เคยพาลกลับน้อมยอมจำนน!!!

ฉันทำตัวเหมือนมดแดงแฝงมะม่วง    ที่แตกช่อก่อพวงเป็นลูกผล

แต่ไม่เคยแตะต้องข้องกังวล    จนสุกงอมหอมหล่นคนเก็บไป!!!

ถึงกระนั้น"ตัวฉันก็เป็นสุข     ไม่เคยทุกข์ร้อนรนกับคนไหน?

จะว่าหญิงให้สุขได้อย่างไร?    ยังห่างไกลจากปัญหาที่ว่ากัน

เคยเห็นเพื่อน"เสพสุราว่าเป็นสุข"  ลองดูบ้างไม่สนุกสำหรับฉัน

ปวดศีรษะคลุ้มคลั่งไปทั้งวัน!!!    ต้องเลิกกันยอมแพ้แก่สุรา!!!

เรื่องเที่ยวเตร่ก็ไม่รู้จะไปไหน?    "ถึงออกไปก็ไม่สุข"เหมือนดังว่า

เออ..นี่เรา"เอาสุขที่ไหนมา?"    ดีหรือบ้าไม่รู้!!!...ดูแปลกคน!!!

ต้องนึกถามในใจอันแท้จริง    พร้อมทั้งสิ่งแวดล้อมและเหตุผล

ก็ตอบได้ว่า"เรื่องทุกข์-สุขในตน    แล้วแต่ใจของคน"ที่เกิดมา!!!

"สุขของฉันอยู่ที่งานหล่อเลี้ยงจิต"    สุขของฉันอยู่ที่คิดสมบัติบ้า!!!

คิดทำโน่นทำนี่ทุกเวลา    "เมื่อเห็นงานก้าวหน้าก็สุขใจ"!!!

"งานยิ่งมีมากจริงยิ่งเป็นสุข    งานยิ่งชุกมันสมองยิ่งผ่องใส

เมื่อทำงานได้เสร็จสำเร็จไป    ก็สุขใจปลาบปลื้มลืมทุกข์ร้อน"!!!

เมื่อเสนองานไปให้นายกฯ    ก็วิตกหนักใจเข้าไว้ก่อน

ถูกหรือไม่?ชอบหรือไม่?ใจยังร้อน    จนเข้านอนยังระลึกนึกถึงงาน!!!

เมื่อส่งกลับสั่งประทับว่า"ชอบแล้ว    เหมือนได้แก้วแสนสุขสนุกสนาน

บังเกิดความเริงรื่นและชื่นบาน    ผลของงานทำให้เป็นสุขจริง"!!!

เมื่อเห็นงานเดินตลอดได้ปลอดโปร่ง    ก็ใจโล่ง"หมดทุกข์เป็นสุขยิ่ง"!!!

ที่กล่าวนี้กล่าวไปด้วยใจจริง    มิใช่หยิ่งผยองเผยอตัว

"ฉันรักงานรักจริงยิ่งชีวิต    ถูกหรือผิดอยากจะทำให้ถ้วนทั่ว

ถ้าทำผิดก็เป็นครูอยู่กับตัว    ดีหรือชั่วขอให้ได้ทำงาน"!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น