วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2563

การหัดตายก็คือปล่อยใจจากสิ่งทั้งหลายก่อนที่จะถูกความตายบังคับให้ปล่อย

Step 1 เตรียมตัวเข้านอนเป็นครั้งสุดท้าย
ลองนอนราบลงบนเตียง เอาแขนมาแนบลำตัว ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า อย่าให้ส่วนใดส่วนหนึ่งเกร็ง หายใจอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยวางความคิดที่รกรุงรังในหัว ทั้งเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต และสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต จากนั้นน้อมใจมาไว้ที่ปลายจมูก สังเกตลมหายใจเข้าและออกของตัวเอง เมื่อใจเริ่มสงบแล้ว ให้ลองจินตนาการว่า เรากำลังเข้าสู่การตาย การนอนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีพรุ่งนี้สำหรับเราอีกต่อไปแล้ว

Step 2 พิจารณาความไม่เที่ยงของร่างกาย
ลองพิจารณาร่างกายของเราทีละส่วนว่า เมื่อความตายมาถึง หัวใจเราจะหยุดเต้น ลมหายใจเราจะสิ้นสุดลง ไม่มีลมหายใจเข้าออกเหมือนในปัจจุบันแล้ว ท้องที่กำลังพอง ยุบอยู่ในขณะนี้จะหยุดเคลื่อนไหว ลำตัวที่เคยอุ่น ก็จะเย็นลง ส่วนต่างๆ ที่เคยยืดหยุ่นก็จะแข็งตึงเหมือนท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์ น้ำหนองจะเริ่มไหลออกมาตามตัว การพิจารณาความไม่เที่ยงของร่างกายเช่นนี้ จะช่วยให้เราคลายจากความยึดติดในร่างกายได้

Step 3 ปล่อยวางคนรักและของที่หวงแหน
ลองเลือกบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของที่เรารัก ผูกพัน และคิดว่ามีความสำคัญที่สุดมา 5 อย่าง จากนั้นลองถามตัวเองว่า ในบรรดา 5 อย่างนี้ หากมีสิ่งหนึ่งที่เราต้องสูญเสียไป อะไรที่เราสามารถตัดใจได้ ลองเรียงลำดับสิ่งที่ตัดใจได้ง่ายที่สุด ไปหายากที่สุด

หากพบว่าตัวเองยังมีสิ่งที่ตัดใจได้ยากอยู่หลายข้อ ให้ลองหมั่นเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่า หากเราต้องตายจริง ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เราเฝ้าหาและสะสมมาจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว ชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ หน้าที่การงานของเราที่กำลังไปได้ดีก็เช่นกัน วันพรุ่งนี้ตำแหน่งหน้าที่ของเราจะกลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว นอกจากนี้เราจะไม่มีโอกาสได้พบหน้าคนรักและครอบครัวอีกต่อไป  หากเรายังรู้สึกห่วงหาอาลัยเพราะมีสิ่งที่ติดค้าง ก็ให้รีบทำสิ่งนั้นให้เสร็จซะ


Step 4 จินตนาการถึงงานศพของตัวเอง
ลองจินตนาการว่า ขณะนี้เรากำลังนอนอยู่ในโลงศพ ในงานศพของเราเอง ลองนึกดูว่า ญาติมิตร เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือใครต่อใครที่มางานศพของเราจะพูดถึงเราอย่างไรบ้าง ลองทบทวนและถามตัวเองว่า ชีวิตที่ผ่านมาเรามีความดีข้อใดให้ทุกคนเอ่ยถึง มีสิ่งใดที่ควรค่าแก่การสรรเสริญ เราใช้ชีวิตคุ้มค่ากับการเกิดมาเป็นมนุษย์หรือยัง มีอะไรบ้างที่เรายังไม่ได้ลงมือทำเสียที เมื่อคิดทบทวนได้เช่นนี้ ก็ให้เตือนตัวเองว่า  ควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่

Step 5 คว่ำแก้วเปล่าไว้ข้างเตียง
หลังจากพิจารณาตัวเองจนครบทั้ง 4 ข้อแล้ว ก็ให้เตรียมตัวเข้านอน โดยก่อนนอน ให้หยิบแก้วน้ำที่ตั้งอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมา แล้วนำน้ำในแก้วไปเททิ้งออกจนหมด จากนั้นคว่ำแก้วเปล่าไว้ข้างๆ เตียง วิธีการนี้เป็นอุบายเตือนใจถึงความตายที่อาจารย์กรรมฐานชาวทิเบตบางท่านใช้กัน เพื่อฝึกเตือนตัวเองว่า วันพรุ่งนี้เราอาจไม่มีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาแล้วดื่มน้ำในแก้วใบนี้อีก การทำเช่นนี้ทุกวันจะช่วยเตือนใจให้เราหมั่นนึกถึงความไม่จีรังของชีวิตได้

พระไพศาล วิสาโล เคยกล่าวไว้ว่า ในเมื่อเราต้องเจอความตายอย่างแน่นอน แทนที่จะวิ่งหนีความตายอย่างไร้ผล เราควรหันมาเตรียมใจรับมือกับความตาย เช่นเดียวกับที่ปราชญ์ชาวฝรั่งเศสได้กล่าวไว้ว่า

“เราไม่รู้ว่าความตายคอยเราอยู่ ณ ที่ใด ดังนั้นขอให้เราคอยความตายทุกหนแห่ง”

— ข้อมูลจากหนังสือ ระลึกถึงความตายสบายนัก หัวข้อ ฝึกตายหรือเจริญมรณสติก่อนนอน โดยพระไพศาล วิสาโล —

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น