วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

วิธีคลายเครียดของนักบัญชี

วิธีคลายเครียดของนักบัญชี

          นักบัญชี (accountant) เป็นตำแหน่งงานที่ได้ชื่อว่ามีความเครียดสะสมมากที่สุดอาชีพหนึ่ง สาเหตุหลักน่าจะมาจากการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับตัวเลข  ความผิดพลาดในการทำงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ความถูกต้องของการทำงานคือสิ่งที่ถูกคาดหวัง หากเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว นักบัญชีก็ยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ความเครียดและกดดันจึงเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่แค่นักบัญชีเองอย่างเดียว แต่คนรอบข้างก็รู้สึกได้ถึงความเครียดนั้นเช่นเดียวกัน

          หลายคนมักจะให้กำลังใจเพื่อนที่ทำงานบัญชีด้วยคำพูดที่ว่า “อย่าเครียด ผ่อนคลายบ้าง” แต่คำพูดเหล่านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากสำหรับนักบัญชี เพราะด้วยหน้าที่การงานแล้ว จะต้องทำอย่างไรจึงจะหลีกหนีจากความกดดันเหล่านั้นได้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อพิจารณาดูกันอย่างถี่ถ้วนแล้ว งาน คือสิ่งเดียวที่ทำให้นักบัญชีเกิดความเครียด

          หลังจากเลิกงาน นักบัญชีก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่แสวงหาความสุข ไม่มีเรื่องงานให้กังวลใจ แต่เป็นไปได้หรือไม่ที่วันทำงานธรรมดาของพนักงานบัญชีจะเป็นวันที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และปราศจากความเครียด วิธีใดบ้างที่จะช่วยผ่อนคลายความเครียดเหล่านั้นของนักบัญชีได้

1. ทำงานให้เป็นสุข

          ในระหว่างที่นั่งทำงาน เราอาจจะเปิดเพลงฟังเบา ๆ บ้างบางครั้ง เพื่อให้สมองได้รับการผ่อนคลาย เลือกเพลงที่เราชอบฟังแต่ควรเป็นเพลงที่ฟังสบาย ๆ ไม่เน้นเสียงร้องที่อาจจะรบกวนสมาธิของเรา หากเป็นไปได้ให้ลองฟังเพลงบรรเลง เช่น เพลงเปียโน เสียงธรรมชาติ เสียงน้ำตก เสียงนกร้องแทน เพราะเสียงเพลงเหล่านี้จะไม่มีเสียงร้องของนักร้องมากนัก เราก็จะไม่เสียสมาธิ และยังเป็นการกระตุ้นสมองให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย เมื่อฟังไปสักพักเราก็จะรู้สึกว่างานเสร็จเร็วขึ้น รู้สึกเครียดน้อยลง เสียงเพลงจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เราจดจ่ออยู่กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เปลี่ยนอิริยาบถทุก 2 ชั่วโมง

          การนั่งทำงานติดต่อกันทั้งวัน นอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้เกิดความเครียดด้วย เราจะรู้สึกว่าเราต้องแข่งขันกับเวลาอยู่ตลอด กดดันตัวเองให้ต้องรีบทำงานให้เสร็จ สมองไม่ได้รับการผ่อนคลาย ความเครียดก็ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเป็นไปได้ ให้ลองลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ หรือเดินไปเติมน้ำดื่ม การตั้งเวลาให้กับตัวเองว่าต้องลุกขึ้นมาผ่อนคลายทุก 2 ชั่วโมง จะทำให้เรารู้สึกมีความหวังกับการทำงาน เพราะในใจเราจะรู้สึกว่าเดี๋ยวทำงานอีกนิดเดียวก็ได้พัก ช่วงเวลาในการทำงานก็จะไม่ยาวจนเกินไป

3. นอนกลางวันเพิ่มพลังงาน

          หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าการนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางวันช่วงสั้น ๆ ช่วยเพิ่มพลังให้เราได้ สำหรับคนทำงานที่ต้องอยู่กับความเครียดสูง ก็อาจจะเอาวิธีการนี้ไปปรับใช้ได เพราะความเครียดจะทำให้เราสูญเสียพลังงานไปส่วนหนึ่ง ให้เราลองหาเวลางีบหลับ เป็นเวลาสั้น ๆ ที่เราสามารถหาให้ตัวเองได้ในแต่ละวัน เช่น ช่วงพักกลางวัน หรือตอนบ่าย สัก 15-20 นาที ผลการวิจัยในหลาย ๆ ที่จะบอกเราว่าในระยะเวลาดังกล่าวร่างกายของเราจะได้ฟื้นฟูพลังงาน และทำให้เรามีแรงสู้งานต่อไป แม้ว่านักบัญชีจะมีเวลาพักผ่อนน้อย เพราะงานค่อนข้างยุ่ง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าร่างกายของเราเหนื่อยล้าเกินกว่าจะไปต่อได้แล้วนั้น ก็ไม่ควรจะฝืน หยุดพักสักหน่อย คงดีกว่าฝืนทนทำงานไปแล้วเกิดความผิดพลาด นั่นอาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีก็เป็นได้

4. อารมณ์ขันและเสียงหัวเราะ

          เมื่อเราได้ยินเสียงหัวเราะ เราจะรู้สึกว่าโลกนี้สดใสและเต็มไปด้วยความสุข คนทำงานบัญชีก็ควรจะหาโอกาสเช่นนั้นเพิ่มความสุข และลดความตึงเครียดให้กับตัวเองบ้าง หลังจากที่ต้องนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน เราจะรู้สึกว่าถึงเวลาที่เราต้องผ่อนคลายบ้างแล้ว ในแต่ละวันเราควรจะมีเวลาพักให้กับตัวเองอย่างน้อย 15 นาที หรืออาจจะมากกว่านั้นเล็กน้อย เราควรชวนเพื่อนที่มีอารมณ์ขันมาคุยเล่นด้วยกันเบา ๆ อ่านหนังสือ หรือดูคลิปวีดีโอตลก โดยที่ไม่รบกวนคนรอบข้าง เพราะไม่เช่นนั้นคนอื่นจะเกิดความรำคาญได้ แล้วคิดไปว่าเราเอาเวลางานมานั่งเล่น เสียงหัวเราะจะช่วยให้เราลืมความเครียดไปได้ชั่วขณะ และกลับมาทำงานด้วยความความสดชื่น อีกทั้งยังอาจจะได้มุมมองใหม่ ๆ ในการทำงานเพิ่มขึ้น

5. คิดบวกและให้กำลังใจตัวเอง

          นักบัญชีที่ต้องเร่งปิดยอดให้ทันในช่วงสิ้นเดือน มักจะรู้สึกว่าเวลาของตัวเองมีน้อย แต่ต้องเร่งทำงานให้เสร็จทันเวลา จนบางครั้งทำงานผิดพลาดเพราะความเร่งรีบก็มีหลายครั้ง หากผิดพลาดมากก็อาจจะต้องเริ่มใหม่แต่ต้น หากนักบัญชีคนไหนเจอเหตุการณ์เช่นนี้ อย่าเพิ่งหมดหวัง หรือโกรธเกรี้ยวกับความผิดพลาดของตัวเอง ให้วางมือจากงานนั้นสักครู่ แล้วบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เราทำใหม่ได้ จากนั้นก็เริ่มต้นทำงานใหม่ คราวนี้เราจะทำงานได้ดีขึ้น กำลังใจและการคิดบวกเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียด หากเราขาดสิ่งเหล่านั้น เราจะรู้สึกว่าเรากำลังเจอทางตัน และมองทุกอย่างเป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หากเป็นไปได้ ลองเปลี่ยนความเครียดให้เป็นกำลังใจ และเป็นบทเรียนในการทำงานต่อไป

          ความเครียดในการทำงานเป็นสิ่งที่ปฏิเสธ และหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะปรับเปลี่ยนได้ เราสามารถเพิ่มเติมความสุขให้กับการทำงานของเราได้ ไม่มีงานไหนที่ทำแล้วไม่เครียด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีงานใดที่ทำแล้วจะมีความสุขตลอดเช่นกัน มีเพียงเราเท่านั้นที่จะจัดการความรู้สึกเหล่านั้นได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น